ทริปเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 4 มรดกโลก

Read Time:12 Minute, 7 Second

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดกิจกรรม Familiarization Trip ดึงผู้ประกอบการไทย-ต่างชาติ เปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยง ๔ มรดกโลก อยุธยา ศรีเทพ สุโขทัย หลวงพระบาง พร้อมจัดสัมมนาทางวิชาการและเจรจาธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

สำหรับกลุ่มของคณะเรา ถือเป็นกลุ่มแรกที่ได้ร่วมเดินทางไปสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง 4 มรดกโลก ตามจุดต่าง ๆ โดยจัดทริปเป็นระยะเวลา 5 วัน สำหรับเราถือเป็นการได้มาพักผ่อน หนีเมืองกรุง มาสูดโอโซนให้เต็มปอด เพื่อจะได้มีพลัง พร้อมกับรู้สึกได้สัมผััสกับบรรยากาศย้อนยุคเลยล่ะ

วันแรกของการเดินทาง นัดขึ้นรถแต่เช้า 7.00 น. เริ่มออกจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดเพชรบูรณ์  ขึ้นรถบัสกันคึกคักเสียงคุยกันสนุกสนานได้สักพัก เสียงก็เริ่มเงียบ เพราะเช้าเหลือเกิน คนในรถก็พากันหลับปุ๋ย เดินทางไปถึงเวลาเที่ยง ก็ถูกปลุกให้ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านไก่ย่างตาแป๊ะ 2 ไก่ต้นตำรับเนื้อนุ่มหนังกรอบ เจ้าแรกแห่งตำนานอำเภอวิเชียรบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ว่ากันว่าใครมาถึงเพชรบูรณ์ แล้วไม่แวะกินไก่ยางที่นี่เหมือนมาไม่ถึงกันเลย ใครเดินทางมาอยากมาลองลิ้มชิมรสชาด ก็ติดต่อมาได้ที่โทร. 056-567017, 056-928026 นะคะ หลังจากอิ่มแปร้กันไปเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปแวะเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ปี และกำลังเสนอรายชื่อเป็น Tentative List  เพื่อรับรองให้เป็นมรดกโลกในอนาคตของประเทศไทย เป็นเมืองโบราณสถาน ที่มีคูเมืองกำแพงเมืองล้อมรอบ  ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 2,889 ไร่  เดิมมีชื่อว่า “เมืองอภัยสาลี” ถูกค้นพบเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จไปตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์ และทรงได้เรียกเมืองนี้ใหม่ว่า “เมืองศรีเทพ” เมืองโบราณศรีเทพนี้มีลักษณะเป็นเมืองซ้อนเมืองขนาดใหญ่ ที่ตั้งของเมืองอยู่ในชุมทางที่สามารถติดต่อกับภาคอื่น ๆ ได้สะดวก จึงได้รับอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมจากอาณาจักรข้างเคียง เช่น ศิลปะทวารวดี ศิลปะขอม เป็นต้น สำหรับการเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น. โทร. 056-921322

จุดต่อไปเราเดินทางเข้าเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อไปสักการะพระ ณ วัดธรรมยาน ซึ่งพระอุโบสถของวัดแห่งนี้ จะมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมแบบล้านนา-ล้านช้าง เข้ากับสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย  ด้านหน้าของพระอุโบสถ ยังมีประติมากรรมพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตน ตั้งคู่กัน ชื่อว่า พญาศรีสุนันท์ และพญาศรีสุธน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปและสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมาก จนมีการขนานนามว่าเป็น พญานาคพ่นทรัพย์ เนื่องจากมีผู้คนไปขอพร แล้วได้โชคลาภกลับไป และบริเวณโดยรอบจะเห็นสมเด็จองค์ปฐมและ พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ประดิษฐานรายรอบในศาลารอบพระอุโบสถ สวยงามอย่างมาก ภายในบริเวณวัดเงียบสงบ จึงเป็นสถานที่เหมาะกับการปฎิบัติธรรมอย่างยิ่ง ถือได้ว่าวันนี้ที่พวกเราได้มากราบสักการะที่นี่แล้ว ทำให้ประทับใจกันจนอยากมากันอีกเลยเชียวล่ะ ถึงเวลาเย็นแล้ว รถบัสจึงพาเดินทางไปยังที่พัก หลังจากวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน คืนนี้เราจะได้พักที่โรงแรมโฆษิตฮิลล์  เมือเราลงจากรถ นำสัมภาระเพื่อจะเข้าที่พัก ก็ทำให้ประหลาดใจกับโรงแรมที่นี่ ว้าว เจ้าของคงเป็นนักสะสมของเก่าเป็นแน่ ท่านเก็บหลากหลายอย่างเลยจริง ๆ อดไม่ได้ที่จะนำภาพมาฝากกันค่ะ

วันที่สอง เช้าแล้ว วันนี้เรามีการสัมนากันที่โรงแรมแห่งนี้ เป็นการสัมมนาทางวิชาการและเจรจาธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศลผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ดำเนินโครงการเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ๔ มรดกโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ให้กับภาคเหนือ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศให้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวใหม่และสนใจการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเป็นสื่อแนะนำผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุน โดยจัดกิจกรรม Familiarization Trip และสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมถึงสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยใช้โอกาสด้านศักยภาพที่ตั้งที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างภาคและเชื่อมโยงการพัฒนาตาม North-South Economic Corridor และ East-West Economic Corridor และประตูเชื่อมโยงชายแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ที่จังหวัดตาก และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดเลย ทั้งนี้กิจกรรม Familiarization Trip และสำรวจแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางเชื่อมโยง ๔ มรดกโลก จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายน 2561 และวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2561 โดยจะมีการสัมมนาทางวิชาการและเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมต่อยอดธุรกิจและสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลบวกให้กับการท่องเที่ยวรวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เส้นทางการท่องเที่ยวจะเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร มุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยวทางมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑ มุ่งสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ปี และกำลังเสนอรายชื่อเป็น Tentative List  เพื่อรับรองให้เป็นมรดกโลกในอนาคตของประเทศไทย จากนั้นเดินทางต่อผ่านเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่าของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีวัฒนธรรมไทหล่มที่มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยผ่านด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง จังหวัดเลย เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเมืองแก่นท้าว แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นมุ่งสู่เมืองหลวงพระบาง แหล่งท่องเที่ยวทางมรดกโลกที่สำคัญ จากนั้นกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้ง แล้วเดินทางมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก คือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองเก่าสุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เชื่อมโยงต่อไปยังจังหวัดตาก และออกจากประเทศไทยอีกครั้งที่ด่านแม่สอด ไปยังประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และหลังจากนั้นเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งจากด่านแม่สอด จังหวัดตาก มายังจังหวัดพิษณุโลก และกลับสู่กรุงเทพมหานคร

ช่วงบ่ายออกเดินทางไปเยี่ยมชมหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย เดิมเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์หลังเก่า เมื่อมีการย้ายศาลากลางจังหวัดไปอยู่ศูนย์ราชการ ทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์จึงขอใช้สถานที่นี้เพื่อทำเป็นหอโบราณคดี จัดแสดงเรื่องราวของเพชรบูรณ์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงยุคศรีเทพ และจัดแสดงในช่วงต่อมาคือ สมัยสุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์ จนถึงยุคร่วมสมัย การจัดแสดงแบ่งออกเป็น 4 ห้องได้แก่ ห้องที่ 1 โรงหนังไทยเพชรบูรณ์เป็นการจำลองโรงหนังแห่งแรกของเพชรบูรณ์ ห้องที่ 2 ห้องจากเขาคะนาถึงศรีเทพจัดแสดงเป็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเพชรบูรณ์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคศรีเทพ ห้องที่ 3 จัดแสดงเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองเพชรบูรณ์ในสมัยสุโขทัย พบหลักฐานสำคัญให้ทราบว่าชื่อเดิมของเพชรบูรณ์คือเพชบุระ และห้องที่ 4 จัดแสดงเกี่ยวกับแผนการให้จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองหลวงของไทย มีห้องหลักเมือง ห้องเพชรบูรณ์เมื่อวันวาน ห้องตำนานเพชรบูรณ์ และห้องครัวเพชรบูรณ์

ถึงเวลาที่จะต้องไปต่อที่อื่นกันแล้ว จุดต่อไปเราจะพาไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เสาหลักของเมืองเพชรบูรณ์ อยู่ที่ถนนหลักเมือง ใจกลางเมืองเพชรบูรณ์ เสาหลักเมืองเป็นแท่งเสาหินทรายสีเทา มีลักษณะปลายป้านโค้งมน ความสูงจากฐานล่างถึงปลายยอด 184 ซม. กว้าง 30 ซม. ความหนา 15-16 ซม. มีจารึกอักษรขอมทั้ง 4 ด้าน ปลายฐานด้านล่างสุดมีลักษณะแผ่ขยายออกคล้ายวงกลมแบน นับว่าเป็นเสาหลักเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ท้ายสุดของวันนี้ก่อนเข้าที่พัก เราไปแวะสักการะพระพุทธมหาธรรมราชา พระประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานเพชบุระ ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก อ.เมือง เพชรบูรณ์ ที่ยอดพระเกตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขนาดหน้าตัก 11,984 เมตร ซึ่งมีความหมายว่า 1 หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์เอก หนึ่งในดวงใจของชนชาวไทย อีก 1 หมายถึง พระพุทธธรรมราชา ซึ่งมีเพียงองค์เดียวในโลก เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ เปํ็นองค์พระที่อัญเชิญมาประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเพชรบูรณ์ ส่วน 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และ 84 หมายถึง วโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ทำให้การเดินทางของเราในวันนี้ปลาบปลื้มใจ ที่ได้มีโอกาสมาสักการะ ณ ที่แห่งนี้

แต่เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปต่อ รถบัสนำพาขบวนมุ่งหน้าไปที่อำเภอหล่มสัก ระหว่างการเดินทางได้แวะให้เข้าห้องน้ำตามปั๊ม พอได้จอดปุ๊บ ก็เฮกันลงไปทั้งมีคนเข้าห้องน้ำ และบางคนก็เดินซื้อของกันยกใหญ่ บอกกล่าวได้ว่า ที่เพชรบูรณ์มีสินค้าที่ชวนซื้อมากมาย เดินทางไปอีกไม่นานนักก็ถึงหล่มสัก เราจะนำท่านไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์” เป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว เหตุการณ์ความเป็นมาและวิถีชีวิตของ “เมืองหล่มสัก” ชุมชนที่มีประวัติมาช้านานและมีความสำคัญอย่างมากของจังหวัดเพชรบูรณ์มาจัดแสดงให้ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา ก่อนจะได้พักกันขอแวะเดินเที่ยวจับจ่ายช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินไทหล่ม ตลาดนัดน่าเดินบนถนนสายรณกิจ ถนนสายเก่าแก่ของอำเภอหล่มสัก เป็นอีกแห่งที่มีสีสันคึกคักของถนนคนเดินไทหล่ม ซึ่งจะมีทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปถึง 5 ทุ่ม มีทั้งอาหารพื้นเมืองที่หารับประทานได้ยาก อาทิ ขนมจีนไทหล่ม , ปิ้งไก่ข้าวเบือ , ข้าวหลามพญาลืมแกง ฯลฯ สินค้าพื้นเมือง สินค้าทำมือ  อีกมากมาย ที่แน่ ๆ ก่อนขึ้นรถบัสไปที่พักกัน เราก็เห็นบรรดาผู้ประกอบการหลายท่าน รวมทั้งตัวเราเอง ก็หิ้วของฝากติดไม้ติดมือกันหลายถุงเลยล่ะค่ะ โปรแกรมวันนี้จบแล้ว ได้ของกันถ้วนหน้า พรุ่งนี้ค่อยลุยกันต่อค่ะ

วันที่สาม หลังจากเมื่อคืนพักผ่อนกันไปเต็มที่แล้ว วันนี้ก็ต้องเดินทางไปอำเภอด่านซ้าย เพื่อไปสักการะพระธาตุศรีสองรัก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2103 สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือกันระหว่างพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง เป็นการจับมือเพื่อความมั่นคง กระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และร่วมมือกันสร้างเจดีย์ขึ้นมีพระนามว่า “พระธาตุศรีสองรัก” ริมลำน้ำหมัน เป็นสักขีพยานแห่งสัจจะไมตรี และจะมีการจัดงานสมโภชพระธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี สิ่งต้องห้ามของที่นี่ก็คือ ผู้ที่จะมาสักการะต้องห้ามใส่เสื้อผ้า “สีแดง” หรือถือสิ่งของที่มีสีแดงเข้าไปบริเวณองค์พระธาตุ เพราะว่า สีแดง อาจเปรียบได้กับ “เลือด” ที่เป็นผลของการทำสงคราม ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมาจนถึงปัจจุบัน แต่ละคนต่างขอพรกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ต้องรวมพลกันไปต่อแล้ว หลายคนเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาตะหงิด ๆ จุดต่อไปจึงต้องเป็นมื้ออาหารที่จะนำพาไปนั้นเป็นร้านขนมจีนแม่บุญมี เป็นขนมจีนเส้นสด มี 7 สีด้วยกัน มีทั้งน้ำยากะทิ น้ำพริก น้ำยาป่า แกงเขียวหวาน ฯลฯ เติมพลังกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ต้องเดินทางไปจุดหมายต่อไปนะคะ คราวนี้มุ่งหน้าไปที่อำเภอเขาค้อ เพื่อไปชมความงามของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่เรียกกันว่าผาซ่อนแก้วนี้ เพราะมีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล และมีความศักดิ์สิทธิ์  เดินทางไปที่พักกันละวันนี้เราได้พักกันที่ โรงแรม บรีซฮิลล์ เขาค้อ (สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย) ที่พักที่นี่มีจุดถ่ายภาพเยอะมากเลยค่ะ

วันที่สี่ วันนี้จะต้องเดินทางไปจังหวัดสุโขทัย  มุ่งสู่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย หรือเมืองเก่าสุโขทัย ตั้งอยู่นอกตัวเมืองสุโขทัย ห่างจากศาลากลางไปตามทางหลวงหมายเลข 12 สายสุโขทัย-ตาก ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร เมื่อผ่านเข้าเขตเมืองเก่า จะเห็นยอดพระเจดีย์แบบต่าง ๆ อันสง่างาม และวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ มีโบราณสถานประมาณ 70 แห่ง สร้างขึ้นไว้ในพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยกรมศิลปากร และได้รับการจัดตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ในปี 2537

วันที่ห้า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เราจึงพร้อมใจกันตื่นเช้าเพื่อไปตักบาตร บริเวณวัดตระพังทอง ที่นี่จะมีสะพานทางเข้าวัด จะมีบรรยากาศตักบาตรสะพานบุญ รับอรุณสุโขทัย ของทุกเช้า เวลา 6.20 น. จะมีพระเดินมาเป็นแถวเลยค่ะ รับบุญกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเดินตลาดยามเช้า ซื้อขนมติดไม้ติดมือกันถ้วนหน้า อาหารที่นี่ราคาไม่แพง

ก่อนเดินทางกลับ แวะสถานที่อีกแห่ง เป็นเส้นทางผ่านอยุธยา จึงแวะเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อดีตราชธานีที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ถึง 417 ปี มีพระมหากษัตริย์ปกครองถึง 33 พระองค์ บรรพชนของไทยได้สร้างสรรค์ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ไว้เป็นอนุสรณ์มากมาย ปรากฎเป็นโบราณสถานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า มีพื้นที่โบราณสถานทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ไร่

ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว กลับมาสู่วิถีชีวิตคนเมือง ต้องขอบคุณทาง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้สนับสนุนนำพาไปสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย เหมือนได้ไปอยู่ในยุคนั้น ๆ กับบรรยากาศที่ไม่ลืมเลือน หวังว่าจะได้มีโอกาสกลับไปอีกครั้ง

Previous post งาน “ตลาดชุมชนเซ็นทรัล” ชูของดีท้องถิ่น ใน 4 ห้างหลักทั่วไทย
Next post ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ เสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ต และความพรีเมียม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเอสยูวีในระดับคอมแพคท์
Social profiles