“โอกาสมีไว้พุ่งชน” กับจิรวรรณ โพธินามทอง

Read Time:3 Minute, 21 Second

นางสาวจิรวรรณ โพธินามทอง หรือ หญิง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จบการศึกษาจากโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย สายการเรียนวิทย์-คณิต จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า หญิงมองว่าอนาคตภาษาจะต้องมีความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้เลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ แต่จากที่เราเป็นนักเรียนสายวิทย์-คณิต ก็จะไม่ได้เน้นวิชาเรียนที่เกี่ยวกับภาษามามากนัก จึงทำให้ต้องขยันขวนขวายหาความรู้ให้มากขึ้นเสียหน่อย

“จำได้ว่าพอตัดสินใจเลือกเรียนด้านภาษา จริง ๆ ต้องบอกก่อนว่าปกติหญิงชอบฟังเพลง ดูหนังต่างประเทศอยู่ในระดับหนึ่งค่ะ ก็ฝึกภาษาจากตรงนี้ไปแบบเนียน ๆ  จะเรียกได้ว่าเลือกเรียนเอกอังกฤษจากไลฟสไตล์ก็ไม่ผิดค่ะ หญิงคิดว่าถ้าเราทำอะไรก็ตามจากพื้นฐานความชอบ ระยะยาวมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนี้ก็เรียนปี 2 แล้วค่ะ ได้สัมผัสความเป็น ม.รังสิต ความเป็นศิลปศาสตร์ บ่อยครั้งที่ก็คิดว่านี่แหละ เราตัดสินใจไม่ผิด ตอนนั้นเลือกอยู่หลายที่ แต่ก็มาตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะได้ฟังคำปรึกษาจากรุ่นพี่ จริงๆ เป้าหมายในชีวิตของหญิงค่อนข้างชัดเจน ชอบแล้วจึงเลือกเรียน เรียนแล้วเราก็อยากจะให้ตรงกับอาชีพที่เราอยากเป็น หญิงอยากเป็นแอร์โฮสเตส วิชาหลัก ๆ ที่เราจะได้เรียนคือความรู้มากมายเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาโทก็เลือกเรียนสาขาธุรกิจการบิน ของวิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ ส่วนตัวก็คาดหวังว่าเรียนแล้วจะได้นำมาประยุกต์ใช้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงการเรียนวิชาพื้นฐาน และวิชาเอก ส่วนวิชาโทก็เตรียมตัวปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาไว้บ้างแล้วค่ะ ก็อยากจะเรียนให้ครอบคลุมที่สุด เพราะที่ ม.รังสิต มีวิชา มีคณะที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละวิชาก็จะได้ลงมือได้เรียนกับผู้รู้จริง ๆ”

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิตเป็นอีกช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุด เราจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์อะไรไปจากช่วงวัยนี้ เลือกเรียนอย่างเดียว เลือกทำกิจกรรมเพียงอย่างเดียว หรือจะทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน สำหรับน้องหญิง เธอเลือกเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ กิจกรรมแรกเป็นกิจกรรมรับน้องใหม่ซึ่งหญิงบอกว่าสิ่งแรกที่ได้รับคือมิตรภาพจากอาจารย์ รุ่นพี่ และเพื่อน นอกจากนี้ยังได้รับคัดเลือกเป็นหลีดประจำคณะอีกด้วย

“การเป็นหลีดของคณะ จริง ๆ ไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะหญิงไม่มีพื้นฐานด้านนี้ และการฝึกซ้อมต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูง เพราะเราทำงานกันเป็นทีม ความแข็งแรงความพร้อมเพรียงจะต้องแสดงออกผ่านท่าทางในการเต้น ตั้งแต่เริ่มรับน้องจนหนึ่งถึงสองเดือนหลังจากนั้น ทุกวันพวกเราทีมหลีดจะต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อแสดงและแข่งขันหลีดในกีฬาน้องใหม่ และด้วยความกดดันจากการได้รับรางวัลจากปีก่อนๆ ทำให้เกิดความรู้สึกว่ายากและท้อแท้ แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยการพูดคุย การให้กำลังใจกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง และอาจารย์ด้วยค่ะ นี่เพียงช่วงไตรมาสแรก หญิงก็รู้สึกว่าเราเป็นผู้รับที่โชคดีแล้ว ได้ทั้งความรัก ได้ทั้งประสบการณ์ เราจะไม่ทำตรงนี้ก็ได้ จะมาแค่เรียนแล้วก็กลับหอ ไปเที่ยว จะทำแบบนี้ก็ได้ แต่เราก็เลือกที่จะใช้เวลาที่มีไปกับกิจกรรม กับการเรียน”

สำหรับน้อง ๆ ที่เลือกแล้วว่าชอบอะไร อยากเรียนอะไร จริง ๆ เป็นโอกาสที่ดีนะคะ เพราะเราจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ ที่จะหยิบจะจับ จะลองทำ จะลองปรับเปลี่ยนพัฒนา กับโอกาสที่เรามี แต่สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็อาจจะต้องลองดู ลองทำ มากขึ้นอีกหน่อย จนกว่าเราจะเจอกับอะไรที่เราทำแล้วมีความสุข แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทุกคนมีโอกาสที่จะได้พบกับ “โอกาส” ไม่ว่าช่วงเวลานั้นจะมาตอนไหน จะมาเมื่อไหร่ อยากให้ใช้โอกาสให้คุ้มที่สุด อย่าปล่อยให้มันลอยผ่านไป อย่างน้อยได้ลองทำเพื่อจะได้เรียนรู้ ก็ยังดีกว่านั่งคิดเอาเองว่าเราชอบ หรือไม่ชอบ

Previous post แคมเปญ “BEAUTY 360 at Romrawin”
Next post วอลโว่ เปิดตัว The New Volvo XC40 สุดยอดคอมแพกต์เอสยูวี
Social profiles