กลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าชั้นนำอันดับหนึ่งของไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นผู้วางรากฐานของธุรกิจค้าปลีกให้ประเทศไทยมากว่า 70 ปี ประกาศความสมบูรณ์แบบของลักชัวรี แฟล็กชิพสโตร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในฐานะ The retail beacon of Bangkok ซึ่งประกอบไปด้วย 3 โซนหลัก พร้อมเผยโฉม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ โรงแรมลักชัวรีระดับพรีเมียมในเครือ พาร์ค ไฮแอท แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และจะจัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ในวันที่ 18 พฤษภาคม
ยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า โครงสร้างของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นรูปสัญลักษณ์อินฟินิตี้ มีทั้งหมด 37 ชั้น แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นศูนย์การค้า 8 ชั้น และอาคารสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ทั้งสองส่วนออกแบบมาเพื่อให้เชื่อมต่อกันคล้ายกับสัญลักษณ์อินฟินิตี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงคอนเซ็ปต์ “One Life Infinite Possibilities” (วัน ไลฟ์ อินฟินิท พอสสิบิลิตี้ส์) “ชีวิตหนึ่ง…ทุกสิ่งเป็นไปได้ อย่างไร้ขีดจำกัด” ด้านหน้าของอาคารทำจากแผ่นโลหะกว่า 300,000 แผ่น ได้แรงบันดาลใจมาจากหลังคาอุโบสถแบบไทย และประดับด้วยไฟแอลอีดีกว่า 750 ดวง การออกแบบของอาคารเป็นการสะท้อนประสบการณ์เหนือระดับที่เป็นนิยามของย่านนี้
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้น่าดึงดูดมากขึ้น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดตัวพื้นที่ใหม่ 3 โซน ได้แก่ “โอเพ่น เฮ้าส์” (พื้นที่พักผ่อนส่วนรวม), “ศิวิไล ซิตี้ คลับ” (โซเชียล คลับแห่งใหม่) และการขยายโซนพื้นที่ “อีทไทย” (ศูนย์รวมอาหารไทย) เซ็นทรัล เอ็มบาสซี มุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์นักช้อปจากทั่วโลกด้วยสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ อาหาร ดนตรี ศิลปะ และดีไซน์ ที่จะมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นศูนย์กลางของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของกลุ่มเซ็นทรัล และส่วนล่าสุดที่จะมาเติมเต็มสถานที่แห่งนี้คือ พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ โรงแรมหรูบนเซ็นทรัล
และส่วนล่าสุดที่จะมาเติมเต็มสถานที่แห่งนี้คือ พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ โรงแรมหรูบนเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผลงานการออกแบบของ ยาบู พุเชลเบิร์ก (Yabu Pushelberg) นักออกแบบระดับโลก เป็นพื้นที่แห่งประสบการณ์หรูหราเหนือระดับ ด้วยพื้นที่ห้องพักที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ห้องมาตรฐานมีพื้นที่กว่า 48 ตารางเมตร และห้องดีลักซ์ มีพื้นที่ถึง 68 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและสถานที่เพื่อความบันเทิง ได้แก่ เดอะ ลิฟวิ่ง รูม (the Living Room), ดิ เอ็มบาสซี รูม, (the Embassy Room), เดอะ บาร์ (The Bar) และ เพ้นท์เฮ้าส์ บาร์ แอนด์ กริลล์ (Penthouse Bar & Grill) ในส่วนที่เป็นเพ้นท์เฮ้าส์ชั้น 34-36 ดีไซน์โดยบริษัทออกแบบจากนิวยอร์ก อะโฟรโก (Avroko) มาพร้อมกับทิวทัศน์อันงดงามของเมืองกรุงเทพฯ รวมถึงลักชัวรีสปาและสระว่ายน้ำขนาด 40 เมตร พร้อมวิวสวนสถานทูตอังกฤษ ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง รวมถึงห้องบอลรูมขนาด 570 ตารางเมตร เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ
เพื่อเป็นการฉลองความสมบูรณ์แบบในครั้งนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดตัวคอร์ปอเรท แคมเปญล่าสุดที่มีชื่อว่า “This brings me here” เพื่อตอกย้ำสถานะของแบรนด์ในฐานะเดสทิเนชั่นชั้นนำของกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิดว่า หลายคนเลือกที่จะเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี แม้ว่าประเทศไทยจะมีสถานที่อื่น ๆ ให้เลือกมากมายก็ตาม โดยเอกลักษณ์ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซีนั้นคือการหลอมรวมของการออกแบบทั้งภายในและภายนอก อาหาร ศิลปะ ความบันเทิง ความรู้ และบริการ
ในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 20,000 ราย และในปี 2017 ด้วยแนวทางใหม่ กิจกรรมใหม่ ๆ และการทำเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ให้เข้าถึงได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โอเพ่น เฮ้าส์ และศิวิไล ซิตี้ คลับ รวมไปถึงเพิ่มความหลากหลายของแบรนด์ในศูนย์ และการพัฒนาการให้บริการ ทำให้ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ถือว่าจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าศูนย์ได้มากถึง 40% หรือ 30,000 รายต่อวัน และมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งครอบครัว ชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย นักท่องเที่ยว และกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยรวมแล้ว กลุ่มเซ็นทรัลได้ลงทุนกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อความสมบูรณ์แบบของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ (7 พันล้านบาท) โอเพ่น เฮ้าส์ (300 ล้านบาท) การขยายอีทไทย (185 ล้านบาท) และศิวิไล ซิตี้ คลับ (130 ล้านบาท) เป็นต้น
เพื่อสานต่อการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง กิจกรรมมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็น “ครั้งแรก” กำลังจะเกิดขึ้นตลอด 7 สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น เริ่มต้นด้วยงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในวันที่ 18พฤษภาคม (เป็นงานที่ลงทุนกว่า 80 ล้านบาทเพื่อการตลาด) และยังมีแผนที่จะใช้งบ 200 ล้านบาท ตลอดทั้งปี สำหรับกิจกรรมการตลาด โดยจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
