สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ อาหารทะเลคุณภาพสูง ร่วมงาน THAIFEX World of Food Asia 2018

Read Time:2 Minute, 48 Second

ในปี 2560 ประเทศไทยนำเข้าปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์ราว 12,000 ตัน นับเป็นเกือบครึ่งของอาหารทะเลทั้งหมดที่นำเข้ามาจากประเทศนอร์เวย์ ทำลายสถิติด้วยอัตราเติบโตร่วมร้อยละ 40 และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย  ประเทศนอร์เวย์เป็นผู้ส่งออกปลาแซลมอนรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยปริมาณอยู่ที่ 1.3 ล้านตันต่อปีและส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ปัจจัยที่ทำให้แซลมอนเลี้ยงจากนอร์เวย์มีคุณภาพสูง คือน้ำทะเลที่เย็นจัดและใสสะอาดของมหาสมุทรแอตแลนติก เทคโนโลยีขั้นสูง และมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมคุณภาพของอาหารทะเลในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มเพาะพันธุ์จนถึงการส่งออกปลา เพื่อส่งเสริมสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีของปลาและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) จึงได้จัดแสดงอาหารทะเล รวมถึงปลาแซลมอนยอดนิยมคุณภาพสูงจากนอร์เวย์ ที่งาน THAIFEX World of Food Asia ในช่วงระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม 2 มิถุนายน 2561 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายจอน อิริค สทีนสลิด ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ กล่าว “ในฐานะที่นอร์เวย์เป็นประเทศส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของโลก ทำให้เราจำเป็นต้องมีการนำนวัตกรรมขั้นสูงเข้ามาใช้และมีระบบควบคุมการผลิตที่เข้มงวด เพื่อส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน ความปลอดภัยของอาหาร และสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีให้กับปลาของเรา ประกอบกับนวัตกรรมและความรู้เฉพาะทางในการเพาะเลี้ยงแซลมอน ทำให้เราสามารถสังเกตการณ์ ติดตาม และบันทึกข้อมูลผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ได้ตั้งแต่ในทะเลจนถึงการส่งออกสู่ตลาด”

ประเทศนอร์เวย์มีความเชี่ยวชาญในการแปรรูปและเตรียมแซลมอนเพื่อการส่งออก โดยระยะเวลาตั้งแต่การจับปลาจากฟาร์มจนถึงการแพ็คน้ำแข็งพร้อมส่งขึ้นเครื่องบิน ใช้เวลาเพียง 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น ศูนย์แปรรูปปลามีการรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดและมีอุปกรณ์เตรียมปลามาตรฐานสูง ทำให้ปลาแซลมอนนอร์เวย์ได้รับอนุญาตให้ส่งออกในลักษณะของปลาสดไปยังประเทศทั่วโลกได้โดยไม่ต้องแช่แข็ง

ปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่นำเข้าแซลมอนนอร์เวย์มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการที่อาหารญี่ปุ่นและแซลมอนซาชิมิได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ส่งผลต่อเทรนด์การค้าขาย จากที่ไทยเคยนำเข้าปลาแซลมอนแช่แข็งเป็นส่วนใหญ่เพื่อแปรรูปและส่งออกซ้ำ ปัจจุบันกลายเป็นปลาแซลมอนสดครองตลาด เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่สูงขึ้น

ปลาแซลมอนนอร์เวย์จะถูกเก็บไว้ที่ความเย็น 0° – 4° องศาเซลเซียสระหว่างการขนส่ง เพื่อคงความสดใหม่ กล่องใส่ปลาทุกใบจะมีข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของปลาโดยละเอียด ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งกระบวนการผลิตและการเติบโตของแซลมอน ตั้งแต่ฟาร์มที่เลี้ยง ไปจนถึงวันที่จับและแปรรูปปลา รวมทั้งข้อมูลของพ่อแม่พันธุ์ โดยขั้นตอนทั้งหมดจนถึงการขนส่งทางอากาศมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของประเทศไทย ใช้เวลาเร็วที่สุดเพียงแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น

ความพิถีพิถันและใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนของอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทของชาวนอร์เวย์ในการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง โดยเมื่อไม่นานมานี้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ได้เปิดตัวตราสัญลักษณ์ SEAFOOD FROM NORWAY ในประเทศไทย บ่งบอกถึงแหล่งที่มาของอาหารทะเลคุณภาพสูงจากประเทศนอร์เวย์ เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าของผู้ค้าส่งและปลีก และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลจากนอร์เวย์เช่นแซลมอนได้โดยง่าย

ผู้ค้าปลีกและส่งที่สนใจใช้ตราสัญลักษณ์ SEAFOOD FROM NORWAY บนสินค้า สามารถลงทะเบียนสมัครเพื่อขอลิขสิทธิ์ทางการค้าได้ที่ Norway Connect โทร. +66(0)26273040

Previous post เครือเฮอริเทจ ยกขบวนสินค้าเจาะตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพที่มีเวลาน้อย
Next post CPF ตอกย้ำผู้นำครัวโลกโชว์นวัตกรรมอาหารในงาน THAIFEX 2018
Social profiles