มูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดคอนเสิร์ตรายการ “ดุริยนาฏนวมินทร์” บัลเล่ต์ “มโนห์รา” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านศิลปะการดนตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ อันสะท้อนพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพทางดุริยศิลป์ วรรณศิลป์และนาฏศิลป์ ขับร้องโดยศิลปินนักร้องชั้นนำที่มีชื่อเสียง ร่วมด้วยคณะนักร้องประสานเสียงและศิลปินรับเชิญหลากหลายสาขา ปิดท้ายด้วยการแสดงบัลเล่ต์เรื่อง “มโนราห์” ร่วมด้วยนักเต้นบัลเล่ต์มีฝีมือโดยผ่านการคัดเลือกกจากทั่วประเทศ กำกับการแสดงและออกแบบท่าเต้นโดย สุธีศักดิ์ ภักดีเทวา (โจ้) เครื่องแต่งกายออกแบบโดย ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์ และพิสิฐ จนงรังสิน แห่ง Tube Gallery บรรเลงโดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) อำนวยเพลงโดย วานิช โปตะวานิช ศิลปินศิลปาธร
การแสดงแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เริ่มด้วยกลุ่มเพลงมาร์ชคือ มาร์ชราชวัลลภ , มาร์ชนาวิกโยธิน , มาร์ช เรา- เหล่าราบ 21 พร้อมด้วย บทเพลงที่พระราชทานเพื่อการลีลาศและบทที่ทรงพระราชนิพนธ์ในวาระต่างๆ รวมทั้งเพลงที่ทรงนิพนธ์คำร้องเป็นภาษาอังกฤษคือเพลง สายฝน , ยามเย็น , ศุกร์สัญลักษณ์, แว่ว , ในดวงใจนิรันดร์ , เกาะในฝัน , ค่ำแล้วและ แผ่นดินของเรา ขับร้องโดยนักร้องรับเชิญ นันทิดา แก้วบัวสาย , ศรัณย์ คุ้งบรรพต , กิตตินันท์ ชินสำราญ , กานดา วิทยานุภาพยืนยง , ณัฏฐ์วรรณ ทีปสุวรรณ , เวธกา (ซิดนีย์) วสุรัตน์ (แชมป์อูคูเลเล่ประเทศไทย) ร่วมด้วยคณะนักร้องประสานเสียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและวงโยธวาทิตโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
ช่วงสุดท้าย เป็นการแสดงบัลเล่ต์เรื่อง “มโนห์รา” ดนตรีประกอบคือเพลงพระราชนิพธ์ “กินรีสวีท” ซึ่งเป็นเพลงชุด (Suite) มี 5 เพลงคือ เริงวนารมย์ (Nature Waltz), พรานไพร (The Hunter), กินรี (Kinari Waltz) , ภิรมย์รัก(Love Story) และอาทิตย์อับแสง(Blue Day) “กินรีสวีท” บทนี้ทรงแต่งทั้งทำนองและเรียบเรียงเสียงประสานได้อย่างไพเราะ งดงามมีความเป็นสากล สร้างสรรค์ได้อย่างกลมกลืนกับบัลเล่ต์เรื่องนี้ที่ทรงผูกเรื่องใหม่ให้กระชับเพื่อสำหรับการสดงเป็นบัลเลต์เรื่อง”มโนราห์” เรื่องราวของ“ สุธนชาดก”ซึ่งเป็นนิทานชาดกหรือวรรณกรรมทางพุธศาสนาที่เกี่ยวกับชะตากรรม ความรัก ความพลัดพราก ความอาลัยอาวรณ์ระหว่างพระสุธนกับนางมโนราห์ ถือเป็นบัลเล่ต์เรื่องแรกของไทยที่เกิดขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะถ่ายทอดความงดงามแบบไทยให้สังคมโลกได้รู้จักมากขึ้นโดยเชื่อมการแสดง โนราห์ ที่ทรงทอดพระเนตรเมื่อครั้งที่เสด็จภาคใต้ปี พ.ศ 2502 ให้เข้ากับการเต้นบัลเลต์ที่เป็นนาฏศิลป์ของชาติตะวันตก
การแสดงครั้งแรกจัดเมื่อปีพ.ศ 2505 ในงานกาชาด ณเวทีสวนอัมพร บรรเลงโดยวงสุนทราภรณ์และวงอ.ศ วันศุกร์ ผู้แสดงมีทั้งนักเต้นบัลเล่ต์และข้าราชบริพารในยุคนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอำนวยการแสดงตั้งแต่พระราชทานโครงเรื่อง กำหนดบทแสดง ทรงพระราชนิพนธ์เพลงและควบคุมการซ้อมด้วยพระองค์เอง ต่อมามีการนำออกแสดงในวาระต่างๆซึ่งมักเป็นการส่วนพระองค์ จึงเป็นการแสดงที่หาชมได้ยาก
การแสดงบัลเล่ต์ “มโนราห์” ครั้งนี้จะต่างกับในอดีต ท่าเต้นออกแบบใหม่ เพราะแต่ละยุคมักตีความต่างกัน จึงได้ออกแบบท่าเต้นใหม่ให้มีความซับซ้อน ใช้เทคนิคบัลเล่ย์มากขึ้นตามเพลงที่พระองค์ทรงตั้งใจถ่ายทอดออกมา ซึ่งดนตรีของท่านมีโน๊ตดนตรีที่ละเอียดอ่อน ซับซ้อน แต่ส่วนที่คงไว้ตามเดิมคือการใส่ท่วงท่ารำไทยลงไปในการเต้น สำหรับชุดนักแสดงได้ปรับแก้ไปตามท่าเต้นเพื่อช่วยเสริมให้นักแสดงเต้นท่าออกมาได้ดีที่สุด งดงามที่สุด สิ่งสำคัญที่จะอยู่ในความทรงจำ นอกจากดนตรีที่ไพเราะและท่าเต้นที่งามสง่าแล้วคือชุดนักแสดงที่สวยงาม เน้นความเป็นไทย อาทิการใช้ผ้าไหมไทย ลายไทย มีการนำเทคนิคการปักและใช้เครื่องประดับอย่างละคอนรำไทยเข้ามาผสมผสาน และได้นำเทคนิคการเชิดหนังใหญ่มาเป็นองค์ประกอบ สร้างมิติให้กับฉาก พร้อมกับแสงสีที่อลังการครั้งนี้ จึงเป็นโอกาศพิเศษที่ชาวไทยจะได้น้อมรำลึกถึงพระองค์และได้รับความสุทรีย์จากบทเพลงพระราชนิพธ์และบัลเล่ต์ มโนราห์ให้อยู่ในความทรงจำตลอดไป
กำหนดแสดง วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 14.30 น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคา 400 / 800 / 1200 / 1600 และ2000 บาท จำหน่ายบัตรที่ Thaiticketmajorทุกสาขาโทร (02) 2623456 www.thaiticketmajor.com ส่วนลด20% สำหรับผู้ถือบัตรMaster Card และVisaCard ธนาคารกรุงเทพ , ส่วนลด50% ทุกราคาสำหรับนักเรียน/นักศึกษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานมูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ(Bangkok Symphony Orchestra Foundation)
โทร( 02) 2556617-8 / (02) 2544954 (จันทร-ศุกร์ ระหว่าง 9.30 -17.00 น)
