กูรูเผยอนาคตการท่องเที่ยวไทยหลังติดอันดับโลก ในงาน Thailand Tourism Forum 2019

Read Time:5 Minute, 15 Second

ทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวตบเท้าเข้างาน Thailand Tourism Forum 2019 (ไทยแลนด์ ทัวร์ริสซึ่ม ฟอรั่ม) หรือ TTF 2019 สุดยอดการประชุมด้านการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2562 ภายใต้หัวข้อ “การจัดการการท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน” (MANAGING TOURISM– Ensuring Great Experiences and Sustainable Outcomes) เจาะอนาคตการท่องเที่ยวไทย และสร้างแผนการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการคมนาคม เผยหลังไทยติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ต้องมีการจัดการที่ดีเพื่อความยั่งยืน พร้อมร่วมสร้างประวัติศาสตร์การประชุมของธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 1,000 คน ณ โรงเเรมอินเตอร์คอนติเนนทัล กรุงเทพฯ วันที่ 21 มกราคม 2562

กลับมาอีกครั้งกับงาน Thailand Tourism Forum (TTF) ครั้งที่ 8 โดยในปีนี้มุ่งเน้นประเด็นการรับมือและการจัดการการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการระดับยักษ์ใหญ่ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สวนสนุก การเชื่อมโยงทางคมนาคม แอร์พอร์ตเรลลิงค์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้สอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องและทุบสถิติทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้กรุงเทพฯ​ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก (Most-Visited City, ข้อมูลจาก Mastercard Communications วันที่ 25 กันยายน 2561) โดยภายในงานมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบริการเข้าร่วมถึง 850 คน พร้อมด้วยกูรูและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์อย่างเข้มข้น

งานสุดยอดการประชุมด้านการท่องเที่ยวเปิดเวทีโดย บิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) หนึ่งในผู้ก่อตั้งงานเสวนาไทยแลนด์ ทัวร์ริสซึ่ม ฟอรั่ม กล่าวเปิดงานในหัวข้อหลัก การจัดการการท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน(Managing Tourism – Ensuring Great Experiences and Sustainable Outcomes) ใจความว่า “TTF2019 เดินทางมาถึงจุดสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เราจำเป็นต้องพัฒนาและขยับขยายโครงสร้างพื้นฐานของการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อตอบสองการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยเราจะต้องเน้นที่โครงการพัฒนาใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องมองไปถึงวิธีการจัดการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในอนาคต เพื่อให้แน่ใจว่า ประสบความสำเร็จในระยะยาวและยั่งยืน”

ต่อด้วยการบรรยายของ ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ในหัวข้อความสำคัญของธุรกิจบันเทิงและการบริการที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว” (Importance of Retail, Entertainment & Hospitality – Better Tourism Experiences) โดยกล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก ในฐานะที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นผู้พัฒนาธุรกิจการค้าปลีกและแหล่งความบันเทิงชั้นนำของประเทศไทย บริษัทจึงวางนโยบายให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยการพลิกโฉมคอนเซ็ปต์ศูนย์การค้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่ครบวงจรทั้งการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ โดยล่าสุดเราได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง AEG ผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิงและกีฬาอันดับหนึ่งของโลก ด้วยเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท สร้าง WORLD-CLASS ARENA ขึ้น 2 แห่ง ได้แก่ EM LIVE ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ (THE EMSPHERE) และ BANGKOK ARENA ตั้งอยู่ที่โครงการแบงค็อก มอลล์ (BANGKOK MALL) ซึ่งจะเป็นโครงการระดับแฟล็กชิพ เป็น GRAND STATEMENT ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะกลายเป็น ICONIC LANDMARK ที่สำคัญในการดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่เติบโตแบบก้าวกระโดดของเมืองไทย

ด้าน แจสเปร์ ปาล์มควิส ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก STR Global สถาบันรายงานสถิติโรงแรมทั่วโลกระบุว่า ได้เผยตัวเลขด้านการท่องเที่ยวไทยปีที่ผ่านมาว่า “ในปี 2561 ภาพรวมการเติบโตการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1% จากปีที่ผ่านมา ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น 2% มีการก่อสร้างโรงแรมใหม่ ๆ มากขึ้น ด้านการเติบโตรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ของกรุงเทพฯ อยู่ที่ 4.9% ซึ่งนับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการแข่งขันกันของโรงแรมใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นในตลาดก็ตาม และนี่ไม่ใช่เพียงแค่การเติบโตระยะสั้นเท่านั้น แต่การเติบโตระยะยาว ซึ่งนับเป็นสัญญาณของการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยพื้นที่พัทยา 2.9% หัวหิน 2.1% และภูเก็ต 0.4% ในขณะที่เชียงใหม่เติบโตคงที่ ส่วนกระบี่การเติบโตถดถอย -1.0% และสมุย -6.8% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากวิกฤตภัยธรรมชาติ” 

และผู้ร่วมบรรยายท่านอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Robert V.R. Hecker กรรมการผู้จัดการ Horwath HTL บรรยายหัวข้อ “Essentials of Master Planning” David Keen ประธานบริหาร QUO และ Stephan Roemer กรรมการผู้จัดการ Diethelm Travel Group ร่วมบรรยายหัวข้อ “Destination Marketing – Thailand & Overseas Best Cases”  Nihat Ercan หัวหน้าฝ่ายลงทุนจาก JLL Hotels & Hospitality Group กล่าวประเด็นเรื่องการลงทุนในหัวข้อ “A World View of Hotel Costs – Develop or Acquire?” และปิดท้ายด้วยบรรยายจาก วิมินตรา แจงนิน หัวหน้ากองบรรณาธิการจาก Hotel Intel ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “Chindia” (China and India) หนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย

ทั้งนี้ Thailand Tourism Forum นับเป็นงานประชุมระดับชาติซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนมกราคม โดยความร่วมมือระหว่างสองผู้จัดหลักได้แก่ หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) และบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจโรงแรมชั้นนำ ซีไนน์ โฮเท็ลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) ซึ่งการจัดงานที่ผ่าน ๆ มาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพิ่มมากขึ้นทุกปีจากทั่วภูมิภาค และงานดังกล่าวยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอีเวนท์ชั้นนำของแวดวงธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมืองไทย ผู้เข้าร่วมงาน Thailand Tourism Forum ได้ร่วมฟังมุมมอง ประสบการณ์ รวมไปถึงข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจ การประเมินความเสี่ยง และเทรนด์ด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่แบ่งปันโดยผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในภาคธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย สำหรับรายเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.thailandtourismforum.com

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมและการบรรยายภายในงาน สามารถเข้ามาดูได้ ที่นี่

www.thailandtourismforum.com

Previous post “ฮิตาชิ ความสุขอัพเกรดได้” แคมเปญใหม่ ฉลองครบ 50 ปี
Next post คอนเสิร์ต “RBSO Classical Concert No.1 เชิญศิลปินเดี่ยวนักทรัมเป็ทชาวไทย บรรเลงเดี่ยวทรัมเป็ทคอนแชร์โตกับวง RBSO
Social profiles