‘ซีพีเอ็น’ เปิดหลักสูตร “CPNlead รุ่น 3” ปลดล็อค Young SMEs ด้วยโมเดล “เรียนจริง ขายจริง โตจริง”

Read Time:4 Minute, 34 Second

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชั้นนำของไทย ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัล ภูเก็ต สานต่อโครงการ “CPNlead รุ่น 3” หลักสูตรรีเทลที่เข้มข้นด้วย Knowledge & Know-How และโอกาสทำตลาดจริง ช่วยต่อยอดธุรกิจและสร้างความสำเร็จให้ SMEs ได้อย่างเป็นรูปธรรม หลังจากประสบความสำเร็จในการปั้น SMEs ต่อเนื่องสองรุ่นรวม 80 แบรนด์ โดยเป็นหลักสูตรที่นักธุรกิจผู้เรียน 100% อยากแนะนำให้เพื่อนผู้ประกอบการมาเรียน เพราะเป็นคอร์สเดียวที่เน้น “เรียนจริง ขายจริง โตจริง” จากความสำเร็จของทั้ง 2 รุ่น 50% ของผู้เรียนสามารถเติบโตและขยายสาขากับซีพีเอ็นได้เลยทันที

ซีพีเอ็นเดินหน้าจับมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พัฒนาหลักสูตร “CPNlead รุ่น 3” เพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการไทย ไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่หรือเล็กให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 มีนาคม 2562  สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.CPN.co.th/cpnlead

คุณปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีพีเอ็น กล่าวว่า  “ความท้าทายในการทำธุรกิจรีเทลทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็ก กลาง หรือใหญ่ แน่นอนว่าทุกคนต้องปรับตัวให้ยังคงอยู่ในกระแสและธุรกิจไปรอดได้ ซึ่งโจทย์ใหญ่จากที่เรามองแค่ทำอย่างไรจึงจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันต้องมองลึกถึง Segmentation คือการที่เราต้องอ่านพฤติกรรมและ ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ให้ออก ซีพีเอ็นในฐานะที่เราเป็นผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้า เรามีทั้งความเชี่ยวชาญและช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งและครบวงจรในแบบ ‘Omnichannel’ ซึ่งเราเองได้มีความพยายามปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง สำหรับหลักสูตร ‘CPNlead’ ที่ซีพีเอ็นจับมือกับธรรมศาสตร์และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว เรามีวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะทำให้เป็นมากกว่าคอร์สอบรมธุรกิจทั่วไป แต่เป็นการสร้าง ‘Partnership’ ร่วมกันระหว่างรีเทลรายใหญ่อย่างซีพีเอ็นกับกลุ่มผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคดิสรัปชั่น (Disruption) และยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization)”

CPNlead เป็นคอร์สธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มาพร้อม Successful Model ที่หาไม่ได้จากคอร์สไหน โดยมีจุดเด่นคือ “Learn from The Best”: เรียนรู้กับตัวจริงทางธุรกิจ นำโดยทีมผู้บริหารของ Central Group & CPN ร่วมกับ Program Director ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ จาก CONC Thammasat ครอบคลุมทุกเรื่องธุรกิจ พร้อม Customize ให้เข้ากับธุรกิจของผู้เรียน พร้อมสัมผัสวิสัยทัศน์จาก Guest Speakers ระดับกูรูและผู้เชี่ยวชาญจากธุรกิจต่างๆ และกิจกรรมพิเศษ Open House ที่จะพาผู้เรียนไปเรียนรู้เบื้องลึกและเบื้องหลังการทำธุรกิจให้สำเร็จกับเจ้าของแบรนด์ดังโดยตรง เช่น คุณอังสนา พวงมะลิต Marketing & Business Development Director จาก Greyhound Café, คุณอานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ Head of People จาก Wongnai และ คุณระวี พัวพรพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส จากบัตร The 1 และจุดเด่นอีกส่วนคือ “Success by Doing”: Workshop พิเศษที่เปิดโอกาสให้ทดลองสร้างแบรนด์และขายจริงบนพื้นที่ Retail Prime Location ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบอย่างแท้จริง เป็นเวิร์คช้อปที่ SMEs รุ่นพี่บอกต่อรุ่นน้องว่าไม่ควรพลาด

ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม. ธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร CPNlead กล่าวว่า “ปัญหาของ Young Entrepreneur ส่วนใหญ่คือ มี passion มองเห็นไอเดีย แล้วลุยทำธุรกิจเลย ไม่ค่อยได้วางแผน แต่คอร์ส CPNlead นี้จะสอนให้คุณรู้จักวิธีคิด อะไรคือ Key Success ที่ควรรู้ หรืออะไรที่เป็น Failure ที่ควรระวัง และที่แตกต่างจากคอร์สทั่วไปคือการทำเวิร์คช้อปในรูปแบบ Pop-Up Store ซึ่งผู้เรียนจะต้อง Collaborate กับเพื่อนๆ ช่วยกันคิดค้นโปรดักท์ใหม่, หรือบางคนค้นพบพาร์ทเนอร์ธุรกิจใหม่ มีการทำ Co-Marketing หรือ Co-Branding ซึ่งการที่ทุกคนได้ลงมือทำจริงๆ บนพื้นที่จริงและตลาดจริงไม่ใช่ห้องทดลอง เป็นเหมือน Fast track ในการเรียนรู้ ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าหลังจากจบคอร์สที่ผ่านมาในหลายๆ เคส นักเรียนสามารถเปิดร้านใหม่หรือขยายธุรกิจได้เลยทันที”

คุณพีช – กานต์พิชชา เกียรติขจรฤทธิ์ จากแบรนด์ DIVANA คาเฟ่ชื่อดังที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้รับแรงบันดาลใจจากสปา และสวนดอกไม้หลังบ้าน และเป็นผู้ชนะเลิศจาก CPNlead รุ่น 2  กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราไม่เคยโฟกัสเรื่อง Business Model อย่างจริงจัง พอได้มาเรียนคอร์ส CPNlead นอกจากจะได้เรียนรู้ทฤษฎีในคลาส เรายังได้ลงมือปฏิบัติจริงในเวิร์คช้อป ‘Pop-Up Market’ ซึ่งเป็นโมเดลพิเศษที่หาได้ยากในคอรส์ธุรกิจอื่นๆ เปิดโอกาสให้เราได้ทดลองไอเดียและออกนอก Comfort Zone ตรงนี้เราได้เรียนรู้การหา Core Value ให้กับธุรกิจที่เราพัฒนาจากการทำสปาเป็น Divana Signature Café เมื่อได้ไปเปิดที่โลเคชั่นใหม่ๆ ได้เจอ Target ที่หลากหลาย เลยได้ไอเดียต่อยอดขึ้นไปอีกจากการปั้นแบรนด์ Signature สู่การทำเป็น Landmark Café ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์การสร้างความเชื่อมโยงกับโลเคชั่นที่ไปตั้งอยู่ เรียกว่าคอร์สนี้ช่วยให้เราคิดค้น Sustainable Business ของเราได้”

Previous post ศูนย์การค้าในเครือซีพีเอ็น ร่วมบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ช่วยฉีดน้ำดูดซับฝุ่นละอองในอากาศ ที่ศูนย์การค้า 20 แห่งทั่วประเทศ
Next post “IAM BANGKOK 2019” เริ่มแล้ว แฟนพันธุ์แท้รถแต่ง ห้ามพลาด !
Social profiles