“กรีนลาเท็กซ์” ทุ่มกว่า 1,000 ล้าน สร้าง New Factory รุกตลาดผลิตภัณฑ์ยางพาราครบวงจร

Read Time:5 Minute, 47 Second

บริษัท กรีน ลาเท็กซ์  จำกัด  ผู้นำด้านการผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพาราธรรมชาติเพื่อสุขภาพ คุณภาพสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จัดแถลงข่าวเผยความสำเร็จ 14 ปีที่ผ่านมากับการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการขยายฐานการผลิต New Factory บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ ในการเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูง และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรุกตลาดผลิตภัณฑ์ยางพาราครบวงจร โดยตั้งเป้ารายได้ 1.7 พันล้านบาทสิ้นปี 2562

นายกัณฑ์กณัฐ แสนสุกวิหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน ลาเท็กซ์  จำกัด เปิดเผยว่า  “แผนการตลาดในปี 2562 ที่บริษัทวางไว้ ตั้งเป้าเป็นผู้นำแบรนด์เบอร์หนึ่งของตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพาราไม่เฉพาะหมอนและที่นอนที่ทำมาจากยางพาราเท่านั้น ปีนี้เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนวัตกรรมหมอนและที่นอนที่มีคุณภาพในหลากหลายระดับราคา ตอบสนองผู้บริโภคทุกตลาด ด้วยวิสัยทัศน์ “เราจะไม่หยุดพัฒนาเพื่อส่งต่อสุขภาพการนอน และคุณภาพชีวิตที่ดี สู่คนทั่วโลก

ในส่วนสินค้ากลุ่มยางพาราเอง จะมีการพัฒนารูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ใน   กลุ่มเดิม แต่จะขยายออกไปในสินค้ากลุ่ม Living และ Lifestyle ด้วย นอกจากนี้บริษัทยังมีแพลนขยายตลาดส่งออกไปสู่กลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่มีประชากรจำนวนมากและมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีสินค้าเครื่องนอนให้เลือกหลากหลายมากนัก เราจะนำสินค้ากลุ่มยางพาราเข้าไปทำตลาดกลางและบน ภายใต้แบรนด์ของไทยและการ    โปรโมทผลิตภัณฑ์ยางพาราแท้ของและผลิตโดยโรงงานในไทยที่ได้มาตรฐานระดับโลก

ทั้งนี้ ในส่วนโรงงานและโชว์รูมใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือนเมษายน ขณะนี้เหลือแค่ในส่วนของอาคารสำนักงาน (Office Building)  ส่วนในสายการผลิตดำเนินการเสร็จแล้วและสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงแล้ว ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับโรงงานเก่า สำหรับงานเปิดตัว Grand Opening วางแผนไว้ว่าจะจัดในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 นี้

สำหรับ New Factory บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม นวนคร ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยเป็นโรงงานและโชว์รูมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการวางระบบที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการผลิตอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง มีความทันสมัย และวางไลน์ผลิตต่างๆ เพื่อรองรับการพัฒนาระบบ Automation ซึ่งเรามีทีมในการพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้การผลิตได้มาตรฐาน ลด Human Error และใช้ระบบ Scada มาจับข้อมูลเพื่อควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐาน ที่สำคัญบริษัทให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม มีการลงทุนในส่วนโครงสร้างของตัวตึก เพื่อให้รองรับการวาง Solar Roof เพื่อประหยัดพลังงานและลงระบบ ASRS คลังอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแผนงานที่จะทำต่อในช่วงประมาณ Q 3 -Q 4”

ด้านนางจิรวดี อังศุมาลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน ลาเท็กซ์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับงบการตลาดในปี 2562 บริษัทฯ จะวางแผนทุ่มงบประมาณในส่วนของการตลาดและประชาสัมพันธ์กว่า 30 ล้าน เพื่อเปิดตัว New Factory ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งเรายังวางแผนบุกตลาดครบทุกช่องทาง ทั้งในช่องทางปัจจุบันที่ทำอยู่ และช่องทางใหม่ เช่น E-Commerce และตลาดต่างประเทศ  โดยแผนงานทั้งหมดนี้ เพื่อให้เป็นไปตาม ที่บริษัทตั้งเป้าว่าปีนี้ จะเติบโตขึ้น 30% จากปี 2561 โดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท

ปัจจัยที่ส่งผลที่ทำให้ธุรกิจเติบโต คือ ปีนี้ จะเน้นบุกตลาดส่งออกที่เป็น New Market  ได้แก่ India / USA และประเทศในกลุ่ม Middle East ซึ่งมีกำลังซื้อสูง สำหรับตลาด India เราก็ได้ลูกค้าส่งออกมาแล้วจำนวนหนึ่ง เพราะเริ่มบุกตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนตลาดกลุ่ม AEC ก็ยังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวแทนจำหน่ายของ Greenlatex แล้วที่กัมพูชาและมีโชว์รูม 2 แห่งที่พนมเปญและเสียมเรียบ และภายในไม่เกินไตรมาส ที่ 2 คาดว่าจะมีตัวแทนและเปิดโชว์รูมที่เวียดนาม และเริ่มบุกตลาด เมียนมา ต่อไป

กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทประมาณ 80% คือลูกค้า OEM ตลาดต่างประเทศ โดยได้ผลิต OEM ภายใต้ brand ของลูกค้าให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ หลายแบรนด์ในประเทศจีนและเกาหลี รวมทั้งผลิตสินค้า House Brand ให้กับห้างใหญ่ๆ หลายห้างในเมืองไทยด้วย นอกจากผลิต OEM ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าแล้ว ยังมีสินค้า House brand ของเราเองอยู่ถึง 7 แบรนด์ เพื่อเข้าไปขายใน Modern Trade ต่างๆ ทั่วประเทศ และขายในตลาดกลุ่ม AEC

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก คือผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ผลิตจากยางพารา ไม่ว่าจะเป็น หมอน / ที่นอน / Topper / ผ้าห่ม / เครื่องนอนเด็กแรกเกิด ไปจนถึงพวก Accessories ต่างๆ เช่น เบาะพิงหลัง เบาะรองนั่ง หมอนล็อคคอ เป็นต้น นอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องนอนกลุ่มยางพาราแล้ว เรายังมีโรงงานผลิตกลุ่มที่นอนสปริง และยางพาราอัดด้วย อย่างไรก็ตามในปีนี้ เราตั้งใจจะแตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ และเสนอที่นอนรุ่นใหม่ที่มีการเรียงชั้นวัสดุอย่างเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มอีกด้วย

นางจิรวดี กล่าวต่ออีกว่า จุดแข็งของกรีนลาเท็กซ์ คือ ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายออกสู่ตลาด แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่เป็นผู้ผลิตเองทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและเสนอราคาที่พอเหมาะให้กับลูกค้าได้ นอกจากนั้นกรีนลาเท็กซ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการมีกำลังการผลิตสูง และมีสต็อคสินค้า ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังมีการให้บริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Design การผลิต ไปจนถึงการจัดส่งที่เรามีฟลีทรถจัดส่งของเราเองหลายขนาด ตั้งแต่ รถบรรทุกหัวลาก รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถกระบะ เพื่อให้ครอบคลุมการจัดส่งทุกพื้นที่

โดยมองว่า ตลาดเครื่องนอนยางพารามีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะในฝั่งตลาดทัวร์ Shop และตลาด E-Commerce ในประเทศจีน และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของหมอนที่นอนยางพารา มีการแข่งกันลดราคาอย่างต่อเนื่องเพื่อครองตลาด  แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัท ยังอยู่ได้เพราะเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่เคยลดต้นทุนโดยการเลือกวัตถุดิบไม่ดีหรือราคาต่ำมาผลิตสินค้า แต่เราเลือกพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองและต้นทุนการผลิตที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สามารถเสนอสินค้าที่ราคา Competitive ให้กับลูกค้าได้

นอกจากนั้น เรายังเน้นการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนกับลูกค้า ผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มโอกาสการขายและลดภาระการแบกสต็อคของลูกค้า อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาดให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ลูกค้า OEM ทุกเจ้าจึงยังอยู่กับเราตั้งแต่เปิดโรงงานจนถึงปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ก็พึงพอใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท”

Previous post ชาร์ป ไทย” เปิดตัวทีวี “อควอส 8K”ในไทย ใช้ “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
Next post Atlas Copco Thailand ประกาศร่วมเป็น National Partner กับ STIT Company Limited ในแคมเปญ Powering The Future
Social profiles