กระทรวงพาณิชย์เปิดเส้นทางส่งเสริมผลงานนักออกแบบไทย โชว์ศักยภาพสู่สากล ในโครงการ DEmark

Read Time:4 Minute, 25 Second

นางวรรณภรณ์ เกตุทัต   รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า รางวัล Design Excellence  Award  (DEmark) มีที่มาจากรางวัล Prime Minister’s Export Award ( PM Export Award) ในสาขา Best Design ซึ่งจากเดิมพิจารณาจากกระบวนการพัฒนาสินค้าเป็นหลัก ต่อมาได้มีการพัฒนามาสู่การพิจารณาให้รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบดี  ซึ่งในปีนี้นับว่าจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12  โดยกรมได้รับความร่วมมือ จากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP)  ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล Good Design  Award (G-mark) ประเทศญี่ปุ่น   ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพิจารณาตัดสิน DEmark และสนับสนุนผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark เข้าร่วมการประกวดรางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงยังให้ความร่วมมือด้านอื่น ๆ เพื่อให้รางวัล DEmark ได้มาตรฐานสากล

รางวัล DEmark จะช่วยส่งเสริมการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark  เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมถึงยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า  และเกิดความภาคภูมิใจเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก โดยคาดหวังว่าจะมีผู้สมัครกว่า 600 ผลงาน และมีผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark  2019 จำนวน 100 รายการรางวัล DEmark ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด DESIGN IS LIVE! ดีไซน์สร้างวิถีชีวิต เพราะการออกแบบที่ดีนั้นอยู่รอบตัวเรา ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งผลงานออกแบบของคนไทยในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับขยายวงกว้างไปสู่สินค้าและบริการที่ครอบคลุมวิถีชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น และในปีนี้จึงมีการพิจารณารางวัลเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มผลงาน จากเดิม 6 เดิม มาเป็น 7 กลุ่ม คือ

  1. กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Industrial Process / Industrial Craft)
  2. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Gift & Decorative Items / Household Items)
  3. กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณท์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย (Creative & Innovative Fashion / Apparel / Jewelry / Textile / Etc.)
  4. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Home Appliances/ Equipment and Facilities for Office / Etc.)
  5. กลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design)
  6. กลุ่มผลงานกราฟฟิกดีไซน์ (Font / Graphic on Surface / Digital Media / Identity Design)
  7. กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายใน (Hotel / Restaurant / Café) ซึ่งเป็นกลุ่มผลงานใหม่ที่เกิดขึ้น

ในปีนี้ภายในงานแถลงข่าวมีการเสวนา ในหัวข้อ “DESIGN IS LIVE! ดีไซน์สร้างวิถีชีวิต” ยังได้รับเกียรติจากกรรมการตัดสินรางวัล G-mark คือ Mr. Koichi Suzuno,  Architect l CEO, Torafu Architects Inc. มาร่วมบรรยายพิเศษ พร้อมทั้งนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์  และนักออกแบบตกแต่งภายในมาร่วมพูดคุยอีกด้วย ได้แก่

  • คุณพิพิธ โค้วสุวรรณ Managing Director, Salt and Pepper Studio Co., Ltd.
  • คุณมนัสพงษ์ สงวนวุฒิโรจนา , Architect & Design Director, Hypothesis Co., Ltd.
  • คุณภูมิศักดิ์ เฑียรฆประสิทธิ์ , Design Director / Founder , DOT LINE PLANE Co., Ltd.

สำหรับผู้ได้รับรางวัล DEmark จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น สามารถใช้โลโก้ DEmark  ในการส่งเสริมการขายสินค้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  ได้รับส่วนลดค่าใช้จ่ายสมทบโครงการร้อยละ 50  ในการเข้าร่วมงาน แสดงสินค้าในต่างประเทศที่กรมฯเข้าร่วม (ไม่เกิน 3  ครั้งในเวลา 1 ปี) ได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการโฆษณาในสื่อต่างๆ รวมทั้งนำสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้า  STYLE Bangkok และ Milan Design Week นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัล DEmark จะได้เข้ารอบ 2 รางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่นโดยทันที  ซึ่งสินค้าไทยที่ได้รับรางวัล DEmark ทั้งหมด จำนวน 749 รายการได้รับรางวัล  G-Mark แล้ว จำนวน 428 รายการ โดยนักออกแบบ/ผู้ประกอบการสามารถใช้โลโก้ความความร่วมมือ DEmark และ G-mark เพื่อช่วยส่งเสริมเป็นช่องทางทางการค้าต่อไป

รางวัล DEmark เป็นเครื่องหมายที่ช่วยให้นักออกแบบและผู้ประกอบการไทยได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีมูลค่าทางการค้าที่สูงขึ้น และเป็นที่รู้จักในระดับสากลโดยได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ เช่น รางวัล Reddot Design Award, IF Design Award ได้แก่ บริษัท เอ็ม วอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตน้ำดื่ม Sprinkle, บริษัท Prompt Design จำกัด, บริษัท ดีโอทีเอส จำกัด บริษัท Thinkk Studio จำกัด และแบรนด์ Korakot เป็นต้น

โครงการ DEmark Award 2019 เปิดรับสมัครทั้งในรูปแบบของบริษัทและนักออกแบบอิสระ ซึ่งผู้สมัคร 1 ราย หรือ 1 บริษัท สามารถสมัครได้มากกว่า 1 ผลิตภัณฑ์ แต่ไม่เกิน 5 ผลิตภัณฑ์ และจะต้อง เตรียมเอกสารการสมัครและเอกสารประกอบต่างๆ ให้ครบทุกผลิตภัณฑ์ โดยสมัครในช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.demarkaward.net  ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2562

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 082-365-2649, 089-687-0507 หรือ สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2507-8262, 0-2507-8278

Previous post สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ปลื้มผลจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019”
Next post พีทีที โออาร์ สนองนโยบายรัฐประหยัดพลังงานช่วงสงกรานต์ ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 140 แห่ง ทั่วประเทศ
Social profiles