ธพว. เปิดประตูหนุน SMEs “ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป” สินค้าเกษตรแปรรูปไทยสยายปีกตลาดแดนมังกร

Read Time:4 Minute, 52 Second

ธพว. ประสานพลัง TSTC และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดันเอสเอ็มอีไทย สยายปีกสู่ตลาดแดนมังกรสำเร็จ ผ่านโครงการ SME D Bank Business Matching นำร่อง บริษัท ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป จำกัด จับคู่ธุรกิจยักษ์ใหญ่จีน 8 ปี รับซื้อสินค้าเกษตรแปรรูปไทยกว่า 16,000 ตัน กระจายรายได้สู่ภาคเกษตรไทยกว่า 2,000 ล้านบาท

วันที่ 26 เมษายน 2562 จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ความร่วมมือ สัญญาตัวแทน ระหว่างบริษัท ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป จำกัด (Thai Hao Chue Group Co.,Ltd.) จากประเทศไทย กับ บริษัท เซินเจิ้น ซงธง โมเดิร์นซัพพลาย เชน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (Shenzhen Zhongtong Modern Supply Chain Management Co.,Ltd.) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมแสดงความยินดี และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธี

นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ภารกิจของธนาคารมุ่งเติมความรู้คู่เงินทุน พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการขยายช่องทางการตลาด โดยรายที่มีศักยภาพจะต่อยอดส่งออกสู่ต่างประเทศในหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์ หนึ่งในนั้น คือ โครงการ SME D Bank Business Matching โดยธนาคารร่วมกับศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน หรือ Thailand Smart TradeCenter (TSTC) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดมาแล้ว 2 ครั้งต่อเนื่อง ในปี 2561 และ 2562 นำคณะผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อชาวจีนโดยตรง ณ นครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อมหาศาล และที่สำคัญ ผู้ซื้อในท้องถิ่นชื่นชอบและยอมรับในคุณภาพสินค้าไทยมาก

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว (2561) คือ บริษัท ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจวิจัยพัฒนาผลไม้เมืองร้อนของไทย และแปรรูปผลไม้ฟรีซดราย ผลิตภัณฑ์อาหาร และของฝาก ได้พบปะเจรจาธุรกิจจีนและเกิดการจับคู่ธุรกิจสำเร็จกับบริษัท เซินเจิ้น ซงธง โมเดิร์นซัพพลาย เชน แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจกระจายสินค้า (โลจิสติกส์) ขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีสัญญาจะรับซื้อสินค้ากลุ่มผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน มะม่วง และมะม่วงหิมพานต์ เพื่อกระจายในตลาดจีน เป็นเวลา 8 ปี ปริมาณซื้อสูงถึงปีละกว่า 2,000 ตัน หรือรวมกว่า 16,000 ตัน ตลอดระยะสัญญา 8 ปี คาดจะสร้างรายได้ถึงมือเกษตรกรรายย่อยคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 250 ล้านบาท หรือรวม 8 ปี มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเพื่อใช้หมุนเวียน ผ่านโครงการ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) ไว้รองรับ คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนนานถึงสูงสุด 7 ปี บุคคลธรรมดา 3 ปีแรกเพียง 0.42% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี และหากยกระดับเป็นนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยจะถูกลงไปอีก 3 ปีแรกเพียง 0.25% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี

ด้านนางสาวธัญศิริ แซ่ตง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป จำกัด เผยว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทภายใต้เแบรนด์ “ไท่ห่าวซือ” นับเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือ OTOP ขึ้นชื่อของประเทศไทย แต่ละผลิตภัณฑ์ผ่านการวิจัยพัฒนาด้านการผลิตมีมาตรฐานส่งออก

“จุดเริ่มต้น บริษัทมองศักยภาพสินค้าเกษตรกรไทย มีเอกลักษณ์และรสชาติไม่เหมือนใคร ทว่าที่ผ่านมา สินค้าเกษตรไทยประสบปัญหาราคาผันผวน บางฤดูกาลผลผลิตขาดตลาด บางฤดูกาลล้นตลาด พี่น้องชาวเกษตรกรจึงได้รับความเดือดร้อน  ขณะที่ประเทศจีนมีขนาดใหญ่ และประชากรจำนวนมาก รวมถึงชาวจีนชื่นชอบมาเที่ยวเมืองไทยมาก แต่สินค้าเกษตรไทยยังไม่ได้ทำการตลาดจีนอย่างจริงจังนัก ทางไท่ห่าวซือ จึงเห็นโอกาส นำทุเรียนหมอนทองมาแปรรูปผ่านเทคโนโลยีฟรีซดราย ให้คงคุณภาพดีเหมือนกินสด ๆ โดยให้นักท่องเที่ยวชิมฟรี วันละนับหมื่นซอง จนท้ายที่สุดทุกคนก็ซื้อกลับประเทศไปเป็นของฝากให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวจีนมีความต้องการที่จะกินและซื้อทุเรียนหมอนทองมากขึ้น

ผู้บริหาร บริษัท ไท่ห่าวซือ กรุ๊ป จำกัด เผยด้วยว่า ในอดีต คนจีนยังไม่รู้จักทุเรียนหมอนทองมากนัก แต่หลังจากที่ไท่ห่าวซือได้แจกทุเรียนหมอนทองหรีซดรายให้ชิม ทำให้คนจีนรู้จักทุเรียนอย่างแพร่หลาย และมีทัศนคติที่ดีต่อทุเรียนไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่มาจากทุเรียนขายดีในประเทศจีน นอกจากนี้ บริษัทต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อีกมากมาย เช่น มะม่วงอบแห้ง สัปปะรดหภูแลอบแห้ง ขนุนทองประเสริญอบกรอบ เนื้อจระเข้อบแห้งรสพริกไทยดำ เนื้อจระเข้อบแห้ง เนื้อมะพร้าวน้ำหอมอบกรอบ มะม่วงหิมพานต์รสมะพร้าว มะม่วงหิมพานต์รสทุเรียน ลูกอมกลิ่นทุเรียน สาหร่ายย่างสอดไส้ทุเรียน หมอนทองอบกรอบ ทอฟฟี่โบราณ และเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวที่ได้รับใบอนุญาตการผบิต “เนื้อจระเข้พริกไทยดำ” แบรนด์ “ไท่ห่าวซือ” ออกโดยหน่วยงานควบคุมความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารของประเทศไทย ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมและได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมีการทำตลาดต่างประเทศ ทั้งในทวีปยุโรป อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ค นอร์เวย์ เยอรมัน ทวีปอเมริกา อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และกลุ่มประเทศเอเชีย อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น

Previous post ซัมซุง ประกาศ “ผู้นำในตลาดทีวี 8K” เปิดตัว Samsung QLED 8K ที่สุดประสบการณ์ใหม่แห่งความสมจริง
Next post TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2019 THE MAGNIFICENT TEN 2019
Social profiles