เดโมเพาเวอร์ ประเทศไทย ขยายสถาบันฝึกอบรมอคาเดมี่ ผนวกออฟไลน์เข้าออนไลน์

Read Time:3 Minute, 5 Second

คุณเดิร์ก ยัน เหร์มัน อาร์ทส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอเอ็มจี โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัทในเครือประกอบไปด้วยบริษัท แอคมีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เดโม เพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยู-มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท เคทู อินไซท์ จำกัด ผู้นำการให้บริการโซลูชั่นทางด้านสื่อโฆษณา และกิจกรรมทางการตลาดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เปิดเผยว่า “เดโมเพาเวอร์เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องฝึกอบรมพนักงาน บริษัทจึงลงทุนพัฒนาเดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่ เพื่อใช้ฝึกอบรมพนักงานประจำและพนักงานสาธิตสินค้าซึ่งเป็นพนักงานชั่วคราว เพื่อส่งต่อข้อความจากแบรนด์สู่พนักงานสาธิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หลักสูตรหลักจึงเน้นไปที่การอบรมความรู้สินค้า สุขอนามัยประกอบอาหาร ทักษะการขาย  และทักษะการให้บริการ ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี สถาบันจัดอบรมไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง ครอบคลุม 300 แบรนด์ มีพนักงานเข้าอบรมมากกว่า 450,000 คน เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางประเภทจำเป็นต้องฝึกให้พนักงานได้ทดลองเห็น-สัมผัส–ชิม-ดมกลิ่นสินค้าจริง รวมไปถึงการฝึกซ้อมแบบ Role Play เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สถาบันก็ได้เพิ่มจำนวนเวิร์กช็อปออฟไลน์ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 บริษัทเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของลูกค้าในต่างจังหวัด บริษัทจึงเปิดสถาบันอบรมย่อยในอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี พื้นที่ที่ครอบคลุมมากขึ้นนี้แสดงถึงศักยภาพด้านการฝึกอบรมพนักงานที่มีมาตรฐานเดียวกันของเดโมเพาเวอร์ อคาเดมี และการควบคุมมาตราฐานราคาค่าใช้จ่ายได้ถูกลง สร้างความภูมิใจให้บริษัทเป็นอย่างมาก บริษัทสามารถส่งมอบผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้ลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสประชาสัมพันธ์ตราสินค้าทั้งในแง่ของประโยชน์จากแบรนด์และผลิตภัณฑ์ และส่งมอบประสบการณ์ไปยังกลุ่มนักช้อปเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่มีส่วนร่วมช่วยให้บริษัทเข้าถึงนักช้อปที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี ทั่วประเทศ”

คุณเดิร์กเสริมต่อว่า “ปัจจุบันเป็นยุค Internet Of Things เดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่ก็มีการพัฒนารูปแบบการอบรมให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยสร้างหลักสูตรเฉพาะ (Special Programs) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม ปีที่ผ่านมาสถาบันนำเอาเทคโนโลยี Cloud-Based System มาใช้ ทำให้จัดอบรมผ่านระบบ E-Learning ครอบคลุมมากถึง 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย ช่วยให้บริษัทผลิตพนักงานสาธิตสินค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ฝึกสอนสามารถใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในการฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์อคาเดมี่ ซึ่งใช้งานได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระบบรายงานผลออนไลน์ช่วยให้ฝ่ายควบคุมคุณภาพ (QC) และทีมผู้บริหารสามารถสังเกต ควบคุม ตรวจสอบ คุณภาพการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ปัจจุบันบริษัทสามารถวัดผลการลงทุนด้านการตลาดให้กับลูกค้าได้และให้ความสำคัญในเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) มากขึ้น จึงมีการปรับปรุงหลักสูตรการอบรมให้พนักงานสาธิตสินค้าให้สร้างความสนใจกับนักช๊อป เพื่อตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้ทันที  นอกจากนี้บริษัทมุ่งเน้นในเรื่องความเท่าเทียมกัน จึงจัดเตรียมสวัสดิการประกันสังคมให้พนักงานประจำทุกคนรวมถึงพนักงานสาธิตสินค้าที่ทำงานชั่วคราว บริษัทยังเปิดโอกาสให้พนักงานที่สนใจสามารถสมัครเป็นพนักงานประจำได้ ซึ่งก็ได้มีการนำร่องไปกับหลายแผนกแล้ว อาทิ แผนก Sales, Creative, Operations และ Training เป็นต้น

Previous post “เพชรดำ-แสตมป์” นำทัพกำปั้นไทย โชว์แกร่ง ก่อนศึก ONE : DREAMS OF GOLD
Next post พัฒนาศิลปะการแสดง
Social profiles