ฝุ่น PM 2.5 ภัยร้ายทำลายผิว

Read Time:5 Minute, 7 Second

คุณภาพอากาศในประเทศไทยตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเข้าขั้นวิกฤตจากมลพิษ และที่สำคัญ “PM 2.5” หรือฝุ่นพิษขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมถึง 25 เท่า! ด้วยอนุภาคที่เล็กมากนี้ ทำให้ขนจมูกไม่สามารถกรองได้ จึงเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจของเรา ดูดซึมเข้ากระแสเลือด และแพร่กระจายไปทำร้ายอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย

พิษภัยของฝุ่น PM 2.5 ต่อสุขภาพนั้นร้ายแรงมาก เพราะ PM 2.5 ไม่ใช่ฝุ่นธรรมดา แต่เป็นการรวมกันของโลหะหนัก และสารพิษต่างๆ ในอากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx), สารปรอท (Hg) และ โลหะหนักอย่าง แคดเมียม (Cd) ที่ล้วนก่ออันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ อีกมากมาย จนในปี 2556 องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เล็งเห็นถึงภัยของมฤตยูจิ๋ว ที่เป็นสาเหตุให้ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควรนี้ และได้กำหนดให้ PM 2.5 อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง

สิ่งที่เราทำได้เบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่มากับ PM 2.5 ในตอนนี้ คือการหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกาย เพราะหากเรายิ่งออกกำลังกาย หรือใช้แรงมาก ร่างกายก็จะยิ่งหายใจเข้าไป ยิ่งสูบฉีดเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ PM 2.5 เข้าสู่ร่างกายมากขึ้น และแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้มากและไวขึ้น  นอกจากนั้นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ โดยต้องเลือกประเภทที่สามารถกรอง PM 2.5 ได้ เช่น รุ่น N95 นะคะ เพราะหน้ากากอนามัยทั่วไปไม่สามารถกรองฝุ่นพิษจิ๋วนี้ได้

นอกจาก PM 2.5 จะส่งผลเสียต่อร่างกายและอวัยวะภายในแล้ว อีกผลกระทบที่รู้สึกได้แทบจะทันทีที่ฝุ่นเพิ่มขึ้น ก็คืออาการไม่พึงประสงค์และอาการระคายเคืองต่างๆ บนผิวหนัง เช่น แสบร้อน คัน จุดด่างดำเพิ่มขึ้นและฝังแน่น ผดผื่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน ริ้วรอยก่อนวัยที่เพิ่มขึ้นและลึกขึ้น โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม! โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะรุนแรงกับผู้ที่มีผิว Sensitive เป็นพิเศษ อาการระคายเคืองเหล่านี้ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันประสบกับความทรมาน และยากลำบากมากขึ้น

วันนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพผิวที่ดีขึ้นในช่วงฝุ่นร้ายครองเมืองเช่นนี้ เรามีข้อแนะนำในการดูแลผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายมาฝาก ดังนี้ค่ะ

1.ล้างหน้าให้หมดจด

ผิวของเราสัมผัสกับ PM 2.5 ทุกอนู และด้วยขนาดเพียง 2.5 ไมครอนนี้ แน่นอนว่าฝุ่นไซส์จิ๋วสามารถทะลุทะลวงเข้าไปอยู่ในรูขุมขนของเราได้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หากไม่กำจัดออกไปให้ราบคาบ แล้วปล่อยให้หมกหมม สะสมไปทุกๆวัน สิ่งที่ตามมาก็คือ จุดด่างดำ รูขุมขนอุดตันและอักเสบ จนเกิดเป็นสิว!!! นอกจากนั้น อนุมูลอิสระที่ PM 2.5 นำพามาด้วย เป็นตัวการสำคัญของริ้วรอยก่อนวัย หากไม่ล้างทำความสะอาดให้เกลี้ยงเกลา ผิวของเราก็จะเหี่ยว มีริ้วรอยร่องลึก ดูแก่ก่อนวัย

การล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่ได้หมายถึงการใช้สารเคมีรุนแรง หรือการขัดถูผิวหน้า เพราะนั่นจะทำให้ผิวยิ่งระคายเคืองและอ่อนแอไปกันใหญ่ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปลอดภัย ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เช่น พาราเบน น้ำหอม สี มิเนอรัลออยล์ ผ่านการทดสอบอาการแพ้และระคายเคือง รวมถึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวแม้หลังล้างหน้า เพราะหากผิวขาดความชุ่มชื้นแม้เพียงน้อย อาการระคายเคือง ไม่สบายผิวก็จะถามหา และอาจพัฒนาไปเป็นปัญหาผิวอื่นๆต่อไปได้

2. เสริมความชุ่มชื้น อันเป็นปราการปกป้องผิว

ผิวที่แข็งแรง คือผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอ เมื่อผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ผิวก็จะแข็งแรงขึ้นจากภายใน สามารถต้านทานสิ่งกระตุ้นได้มากขึ้น โดยการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวนั้น นอกจากจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณ 2 ลิตรต่อวันแล้ว การทา Moisturizer ที่ให้คุณค่าการบำรุงล้ำลึก ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยนอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นแล้ว Moisturizer ยังช่วยเคลือบผิวไว้ ไม่ให้สัมผัสกับ PM 2.5 โดยตรงอีกด้วย และเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ ระคายเคือง ข้อแนะนำในการเลือก Moisturizer ก็คือ ให้เลือกที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัย ไร้สารก่อระคายเคือง ผ่านการทดสอบอาการแพ้ เพื่อให้มั่นใจว่าผิวจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย

Moisturizer ที่ตอบโจทย์นี้ คือ “freeplus Watery Cream” โดยได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมายอาทิ รางวัล Best Cream สินค้าใหม่ครึ่งปีแรกของ 2019 จาก @Cosme ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังของเมืองไทยอย่างคุณ kirarista ได้ยกให้ “freeplus” เป็นหนึ่งใน Best Moisturizer ประจำปี 2019 ที่ใช้ได้แม้วันที่ผิวไม่แข็งแรง หรือไปเลเซอร์ผิวมา

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 ให้ได้มากที่สุด

ฟังดูเหมือนกำปั้นทุบดิน แต่ยิ่งสัมผัสฝุ่นพิษน้อยแค่ไหน ก็จะได้รับผลกระทบน้อยเท่านั้น ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด และรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อกลับเข้าบ้าน, สวมหน้ากากอนามัยเสมอแม้ไม่ได้ออกนอกอาคาร เพราะขนาดที่เล็กมากของ PM 2.5 ทำให้ทะลุเข้าไปได้แม้ในอาคาร

ฝุ่นพิษ PM 2.5 นั้น เป็นปัญหาที่เราทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกันก็เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น นอกจากจะดูแลตัวเองให้ปลอดภัย และได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้น้อยที่สุด เราสามารถช่วยกันลดฝุ่นได้ เช่น ลดการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ด้วยการเลือกเดินทางด้วยรถสาธารณะมากขึ้น หรืองดการเผาในที่โล่งแจ้งนะคะ

เราจะผ่านวิกฤตฝุ่นพิษนี้ไปด้วยกัน ด้วยสุขภาพกายและสุขภาพผิวที่แข็งแรงค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจาก freeplus เชิญพิสูจน์และสัมผัส “freeplus” สกินแคร์จากญี่ปุ่นเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่าย และทุกสภาพผิวที่ต้องการการดูแลอย่างอ่อนโยน ได้ ณ เคาน์เตอร์ freeplus ที่ร้าน Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, Donki, @Cosme store, Beautrium และ Eveandboy และ Watsons และที่ร้านค้า Online ทางการของ freeplus บน Lazada และ Shopee

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข่าวสาร กิจกรรมดีๆ และโปรโมชั่นได้ที่ facebook และ instagram : freeplusthailand

Previous post โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก 70 คน พร้อมดวลวงสวิง ชิงความเป็นหนึ่งใน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2020”
Next post เปิดประตูแรงงานรุ่นใหม่ ต้องมีไอคิว – อีคิว – อัพสกิล เตรียมพร้อมสู่ตลาดงาน
Social profiles