เลิกเป็นคนเจ้าน้ำตาล เพราะเบาหวานน่ากลัวกว่าที่คุณคิด

Read Time:4 Minute, 2 Second

ไม่ว่าการแพทย์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน โรคเบาหวานยังคงเป็นปัญหาใหญ่เสมอ เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF: International Diabetes Federation) ได้ประเมินว่าจะมีผู้ป่วยเบาหวานมากถึง 425 ล้านรายทั่วโลกซึ่งหากเทียบกับจำนวนประชากรโลกที่มีราว 7,300 ล้านคนในขณะนี้ ก็ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ไม่น้อยเลย ที่สำคัญผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยชนิดที่ 2 ซึ่งป่วยจากพฤติกรรมการกิน เพราะความหวานนั้นเป็นรสชาติที่ชื่นใจ การหักห้ามใจไม่ให้กินอาหารที่มีน้ำตาลนั้นทำได้ยากเหลือเกิน เพราะมิหนำซ้ำบางคนยังไม่ ‘กลัว’ โรคเบาหวานมากพอที่จะตัดใจ เพราะไม่ใช่โรคที่จะเสียชีวิตปุบปับเฉียบพลัน

เนื่องในโอกาสวันเบาหวานโลก 14 พฤศจิกายน เราจึงขอเล่าถึงอันตรายรอบด้านตั้งแต่หัวจรดเท้าของเบาหวานให้คุณลองคิดดูใหม่ ถ้ายังคิดจะหยิบของหวานเข้าปากต่อไป

เป็นเบาหวานวันนี้ แถมฟรีความจำเสื่อม

สมองเสื่อมหรือ Dementia คือ ภาวะที่สมองถดถอยจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ อัลไซเมอร์คือโรคในกลุ่มนี้ที่พบบ่อยที่สุดและคนไข้เบาหวานก็มีโอกาสเป็นอัลไซเมอร์หรือกลุ่มอาการสมองเสื่อมมากถึงร้อยละ 50 เกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะด้วยความสัมพันธ์ระหว่างระดับน้ำตาลในเลือดและความดันเลือดที่ส่งผลกับสมอง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ที่สร้างความเสียหายต่อสมองส่วน hippocampus ซึ่งกระทบกับความจำโดยตรง ยังมีอีกทฤษฎีที่เรียกโรคอัลไซเมอร์ว่าเบาหวานประเภทที่ 3 เพราะการทำงานของอินซูลินที่ผิดปกติมีผลต่อการสะสมของโปรตีนอะมัยลอยด์ (Amyloid plaques) และ เทาว์โปรตีน (Tau protein) ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเป็นสาเหตุของอัลไซเมอร์นั่นเอง

สูญเสียการมองเห็น

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เส้นเลือดที่เรตินาหรือจอตาได้รับความเสียหายจากน้ำตาลอุดตันและเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติจนกระทบกับการมองเห็น หลายคนอาจจะรู้จักภาวะนี้อยู่บ้างและอาจมองว่าไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่จากสถิติผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทยพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีโอกาสมีภาวะเบาหวานขึ้นตาได้มากถึงร้อยละ 98 ขณะที่ผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 มีโอกาสมีภาวะเบาหวานขึ้นตาได้มากถึงร้อยละ 60 เลยทีเดียว

เมื่อน้ำตาลระรานกระดูก

หากผู้ป่วยเบาหวานปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานๆ น้ำตาลที่อยู่ในเลือดจะค่อยๆ ทำลายโครงสร้างคอลลาเจนของกระดูก ทำให้กระดูกแตกหักได้ง่ายขึ้น ทนต่อแรงกระทบกระแทกได้น้อยลง ความหนาแน่นของกระดูกก็ลดลง นำไปสู่ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 อาจได้รับผลกระทบจากยากลุ่มไพโอกลิตาโซน (TZD – Pioglitazone) โดยยากลุ่มนี้จะไปยับยั้งการสร้างของมวลกระดูกเกิดใหม่ เป็นเหตุให้กระดูกแตกเปราะ อีกทั้งยังทำให้มวลกระดูกและฟันเสื่อมลง บางลง และหักได้ง่ายอีกด้วย

เบาหวาน แต่ความรักจืดจาง

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยเบาหวานผู้ชายมีโอกาสพบได้ร้อยละ 50-90  เกิดจากหลายสาเหตุเช่น ผลข้างเคียงของยารักษาเบาหวานที่ไปกระทบกับความดันเลือดซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการแข็งตัวขององคชาต  พลังงานในร่างกายไม่คงที่เพราะระดับน้ำตาลในเลือดไม่ปกติ หรือฮอร์โมนเพศชายลดลงจนขาดความต้องการไปจนถึงมีสภาวะเครียด ซึมเศร้าในจิตใจจนกระทบกับกิจกรรมทางเพศได้ สามารถเยียวยาได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแต่จะไม่หายขาด

หวานจนต้องตัดขา ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

ผลข้างเคียงนี้เกิดจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีทำให้ระบบประสาทส่วนปลายเสื่อม สูญเสียประสาทรับความรู้สึก โดยจะรู้สึกชาคล้ายเป็นเหน็บ ถ้าอาการรุนแรงระบบประสาทอัตโนมัติอาจเสื่อมร่วมด้วย ทำให้ผิวหนังบริเวณเท้าปริแตกได้ง่ายและเสี่ยงต่อการเกิดแผลเรื้อรัง หากมีอาการไปนาน ๆ กล้ามเนื้อเล็ก ๆ บางมัดบริเวณเท้าจะฝ่อลงจนเกิดเท้าบิดผิดรูป ซึ่งจะส่งผลต่อน้ำหนักที่กดทับเวลาเดิน ยิ่งทำให้เกิดแผลเรื้อรังที่เท้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกตัดนิ้วเท้าหรือขาได้

จะเห็นได้ว่า แม้เบาหวานจะไม่ได้ทำให้เราล้มป่วยหรือเสียชีวิตโดยเฉียบพลัน แต่ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นกระทบต่อชีวิตรอบด้านจนบอกได้เลยว่า ‘ไม่คุ้มค่า’ ถ้าไม่ดูแลตัวเองตั้งแต่ต้น แค่เริ่มก้าวแรกวันนี้ด้วยการลดน้ำตาล อาหารพวกแป้งและอาหารแปรรูป ขยับร่างกายให้มากขึ้นและหมั่นไปตรวจสุขภาพก็ลดความเสี่ยงลงได้มากแล้ว

และไม่ว่าคุณจะต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับเบาหวานด้านไหน โรงพยาบาลวิมุตก็พร้อมดูแลคุณเสมอ ทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้การดูแลอย่างใส่ใจ วิทยาการใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งนักกำหนดอาหาร Wellness Trainer สปาเท้า หรือเทคโนโลยี Fundus Camera  ที่ใช้ตรวจวินิจฉัยภาวะเบาหวานขึ้นตาอย่างมีประสิทธิภาพ  และเนื่องด้วยวันเบาหวานโลก โรงพยาบาลวิมุต จัดกิจกรรม “รู้ทันเบาหวาน ชีวิตก็หวานยาวๆ” เป็นการส่งเสริมให้ทุกคนหันมาระวังและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกิจกรรมนี้ได้จัดให้มีการตรวจวัดมวลไขมันด้วยเครื่อง Inbody เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว และตรวจคัดกรองเบาหวานขึ้นตาเบื้องต้นเพื่อค้นหาความเสี่ยง โดยทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 13 – 19 พฤศจิกายน 2564

ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลวิมุต อีกระดับของการรักษาด้วยความใส่ใจ

Previous post BME ม.รังสิต เปิดแผนฯ 5 ปี เรียนวิศวกรรมชีวการแพทย์ และเข้าศึกษาต่อคณะแพทย์ ตปท
Next post เสริมจมูก แก้ไม่จบ เพราะสาเหตุใด
Social profiles