สแกนเนียเผยวิธีประหยัดน้ำมันในธุรกิจโลจิสติกส์ ฝึกอบรมนักขับ และอีโคโหมด ช่วยลดต้นทุนงานขนส่ง

Read Time:3 Minute, 58 Second

สแกนเนียเผยเคล็ดลับการประหยัดน้ำมันช่วยธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในยุคราคาน้ำมันแพง แนะใช้บริการฝึกอบรมนักขับ (Driver Training) และระบบขับขี่อีโค (Eco Mode) ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากถึง 2 เปอร์เซ็นต์ หรืออย่างน้อย เฉลี่ย 20 -80 ลิตรต่อเที่ยวขึ้นอยู่กับสภาพของรถ

นายอำนาจ ทองทัย ผู้จัดการแผนกฝึกอบรมพนักงานขับรถ บริษัทสแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะปัญหาน้ำมันที่มีราคาแพงอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมนักขับ (Driver Training) จึงมีความสำคัญกับธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นธุรกิจขนส่งจึงต้องมีการฝึกอบรมให้คำแนะนำและมีการพัฒนาคนขับรถในเรื่องของการให้ความรู้ในการใช้รถ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันต่าง ๆ ใช้ให้ถูกวิธี การขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย รวมถึงการใช้รถที่ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจขนส่ง

“การฝึกอบรมนักขับถือเป็นบริการหนึ่งของสแกนเนีย ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้คำปรึกษา ให้ความรู้ในเรื่องของการการขับขี่ หากเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ได้ฝึกอบรมกับผู้ที่ไม่ได้ฝึกอบรม อาจทำให้เห็นถึงความแตกต่างด้านการประหยัดน้ำมัน และยังต่างกันในเรื่องของการสึกหรอของรถ รวมถึงลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ จึงเป็น Value หรือคุณค่าที่จะเน้นให้กับลูกค้าของเราเพื่อที่จะให้เห็นความสำคัญกับการฝึกอบรม” นายอำนาจกล่าว 

นายอำนาจ กล่าวว่า การให้บริการ Driver Training ของสแกนเนียจะแบ่งบริการเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. บริการทดสอบหรือทดลองขับ 2. ส่งมอบรถ 3. การฝึกอบรม 4. ที่ปรึกษาการขับขี่ (Driver Coaching) โดยสแกนเนียจะมีระบบ FMS (Fleet Management System) ที่จะคอยติดตามการใช้รถ หากติดปัญหาก็จะมีแผนกฝึกอบรมพนักงานขับคอยเป็นที่ปรึกษา ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 

เริ่มจากบริการทดลองหรือทดสอบขับ มีขึ้นเพื่อพิสูจน์สมรรถนะ ความสามารถของรถสแกนเนียที่จะนำไปตอบโจทย์งานขนส่งลูกค้า เนื่องจากงานขนส่งในตลาดมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายเส้นทาง หลากหลายประเภทสินค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะการลงทุนกับสแกนเนียจะคุ้มค่า แผนกฝึกอบรมนักขับจึงมีมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญที่จะพาท่านไปพิสูจน์การใช้งานจริงด้วยสินค้า และเส้นทางที่ท่านทำงานจริง 

เมื่อทดสอบได้ผลที่พอใจ ลูกค้าที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของสแกนเนีย ก็จะได้รับการส่งมอบรถโดยทีมงานมืออาชีพ ที่นอกจากจะส่งรถให้ลูกค้าถึงอย่างปลอดภัยแล้ว ยังแนะนำตัวรถพร้อมงานบริการครบวงจรที่สแกนเนียมีให้ลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถใช้งานสแกนเนียได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีคูปองสำหรับเจ้าของเพื่อส่งพนักงานขับเข้ารับการอบรมเพิ่มเติมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ พร้อมการสอบวัดผลให้ เพื่อแน่ใจว่า การขับขี่รถสแกนเนียจะมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสะดวกสบาย

 นอกจากนี้ สแกนเนียมีระบบที่เชื่อมกับตัวรถเพื่อวิเคราะห์การขับขี่ในรถทุกคัน ด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้สามารถวัดผล ประเมินการขับขี่ได้ ซึ่งแผนกฝึกอบรมนักขับสามารถร่วมกับลูกค้า ดูข้อมูลและนำมาวางแผนพัฒนาปรับปรุงงานขนส่งของลูกค้าในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ โดยบริการนี้คือบริการที่ปรึกษาการขับขี่ (Driver Coaching) จะเห็นได้ว่าบริการจากแผนกฝึกอบรมนักขับ ครอบคลุมทั้งก่อนและหลังการขายทั้งปัจจุบันและอนาคตของธุรกิจขนส่ง เพื่อการขนส่งอย่างยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า

นายอำนาจ กล่าวถึง ความเชื่อมโยงระหว่างการฝึกอบรมนักขับรถ (Driver Training) กับระบบ Eco Mode ว่า จากปัจจุบันที่ราคาน้ำมันสูง สแกนเนียนำเสนอฟังก์ชันที่มีในรถสแกนเนียพร้อมให้ทุกคนประหยัดน้ำมันขึ้นง่าย ๆ เพียงใช้โหมดการขับขี่อีโค (Eco Mode) ที่ทุกท่านสามารถปรับเองได้ด้วยปลายนิ้วที่ก้านเกียร์ ร่วมกับระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติออพติครูส จะทำให้รถประหยัดน้ำมันที่สุดมากถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจแล้ว สามารถประหยัดได้อย่างน้อย 20 -80 ลิตรต่อเที่ยวนอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์และเครื่องยนต์ด้วย จึงเป็นทางเลือกที่สแกนเนียมีนำเสนอในยุคราคาน้ำมันแพง และเมื่อกล่าวในเชิงความยั่งยืนแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หรือลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถสแกนเนีย สามารถโทรศัพท์สอบถามสแกนเนียได้ที่ 02-017-9200 โดยสแกนเนีย ยังคงมุ่งมั่นเพื่อให้รถของลูกค้าพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มผลกำไรในธุรกิจขนส่งอย่างสูงสุด เพื่อการขนส่งที่ยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้ท่านและสอบถามข้อมูลรถเพิ่มเติมที่ www.scania.com/th/th/home/products-and-services/trucks/trucks_showroom.html

Previous post มิชลิน ไกด์ ประกาศขยายความร่วมมือกับ ททท. ต่ออีก 5 ปี
Next post OPPO เตรียมจัดงาน OPPO INNO DAY 2021 ‘Reimaging the Future’ 14-15 ธันวาคมนี้ พร้อมพบกับ OPPO INNO WORLD งานจัดแสดงออนไลน์ครั้งแรก
Social profiles