อนาคตของคริปโทเคอร์เรนซีในปี 2022

Read Time:3 Minute, 15 Second

ปี 2022 เป็นอีกหนึ่งปีที่โลกจะเต็มไปด้วยสีสัน ไม่ว่าจะเป็นมหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ หรือมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ประเทศจีน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่เราทุกคนต้องตั้งหน้าตั้งตารอคอยและติดตาม รวมถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 3 แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองไม่เเพ้กีฬาหรือสถานการณ์โลกใด ๆ ก็คือสถานะของคริปโทเคอร์เรนซีในปีหน้านี้ ว่าตลาดจะขยับกันไปได้อีกกีเท่าตัว ปรับขึ้น ปรับลงกันอย่างไรบ้าง รวมทั้งจะมีบริษัทหรือรัฐบาลใด ๆ ออกมายอมรับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นสิ่งที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายอย่างที่เอลซัลวาดอร์เพิ่งจะประกาศไปเมื่อเดือนกันยายนหรือเปล่า เรื่องนี้ เราลองไปถามคุณ John Csiszar จาก Yahoo! Finance กันดีกว่าครับ

คุณ John เขียนคำพยากรณ์ของตัวเองเกี่ยวกับอนาคตของคริปโทเคอร์เรนซีในปี 2022 เอาไว้อย่างนี้ครับ1. เราจะสามารถใช้จ่ายทั่วไปโดยใช้คริปโทเคอร์เรนซีได้

สิ่งเดียวที่ทำให้คริปโทเคอร์เรนซียังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางนั้นก็เป็นเพราะว่าคนส่วนใหญ่ยังมองว่าคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเพียงการลงทุนที่ผันผวนสูง เพราะฉะนั้น หากว่าบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เริ่มเปิดโอกาสให้ใช้จ่ายด้วยคริปโทเคอร์เรนซีได้แล้ว ก็จะเป็นสร้างประโยชน์ให้กับคริปโทเคอร์เรนซีในที่สุดครับ2. ประเทศต่าง ๆ จะยอมรับให้ใช้คริปโทเคอร์เรนซีชำระหนี้ตามกฎหมายกันมากขึ้น

​เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกในโลกครับที่ออกกฎหมายรับรองให้ใช้บิทคอยน์เป็นสิ่งชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญมากที่คริปโทเคอร์เรนซีเริ่มได้รับการรับรองจากรัฐบาล เเม้จะเป็นเพียงประเทศเดียว แต่ก็จะไม่เป็นประเทศสุดท้ายแน่นอนครับ3. ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ จะออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง

รัฐบาลต่าง ๆ ที่กลัวคริปโทเคอร์เรนซีอาจสั่งให้ธนาคารกลางของประเทศสร้างสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนใช้หรือลดปริมาณการใช้คริปโทเคอร์เรนซีลง แต่ถึงอย่างไรสกุลเงินดิจิทัลที่มีองค์กรกลางออกแบบนี้ ถือว่าไม่ตอบโจทย์ความเป็นคริปโทเคอร์เรนซีตั้งแต่ขั้นแรกเลยนะครับ เพราะการจะเป็นคริปโทเคอร์เรนซีนั้น จุดประสงค์คือความเป็นdecentralized asset หรือสินทรัพย์ที่เราสามารถจัดการ ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีบุคคลที่สาม ที่เรียกกันว่าการโอนแบบ peer-to-peer นั่นเอง4. เหล่านักลงทุนและบริษัทยักษ์ใหญ่จะกว้านซื้อคริปโทเคอร์เรนซีกันมากขึ้น

​แน่นอนครับว่า ถ้าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีกันมากขนาดนี้ จะมีเหรอที่บริษัทหรือนายทุนระดับยักษ์ใหญ่จะไม่สนใจ ถ้าลงเงินมาก ๆ ก็อาจจะเข้าข่ายเป็น“วาฬ (whale)” หรือคนที่ถือเหรียญเยอะและมีอิทธิพลต่อราคาเหรียญได้เลยนะครับ5. คริปโทเคอร์เรนซีบางสกุลอาจจะเจ๊ง

​ใครจะไปรู้ครับ บิทคอยน์อยู่ ๆ อาจจะมูลค่าหายไปหมดก็ได้ ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีอันตราย ๆ หลักก็ตรงนี้เเหละครับคือ เป็นการลงเงินรวมกันของคนโดยไม่มีทรัพย์สินอะไรมาเป็นฐานราคา ไม่มีบริษัท ไม่มีสินค้า เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนขายบิทคอยน์กันหมด บิทคอยน์ก็จะไม่เหลืออะไรเลยครับ

​แต่ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ขอให้ทุกท่านลงทุนใช้เงินกันอย่างระมัดระวังนะครับ อย่าไปลงทุนกับเหรียญมีมหรือเหรียญที่เราไม่เคยศึกษาข้อมูลมาก่อน แล้วก็ อย่าใช้บทความนี้เป็นตัวช่วยตัดสินใจนะครับผม

Previous post คึกคัก! “ดนตรี อว.เทิดพระเกียรติ” วันที่สอง ประชาชนดื่มด่ำเพลงพระราชนิพนธ์คับคั่ง
Next post มิตรผล จัดแคมเปญสุดปัง “อ้อยสดมิตรผลให้โชค จับแหลก แจกจริง ทุกวันพฤหัส” เตรียมรับโชค มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ตลอด ธ.ค.64 – มี.ค.65 นี้
Social profiles