ลูมิน็อกซ์ ฉลองวันคุ้มครองโลก เปิดตัวลูมิน็อกซ์ แบร์ กริลส์ เซอร์ไววัล มาสเตอร์ #TIDE โครโนกราฟ 3740 รังสรรค์จากขยะพลาสติกอัพไซเคิลให้เป็นนาฬิกาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Read Time:3 Minute, 46 Second

ลูมิน็อกซ์ (Luminox) จับมือศรีทองพาณิชย์ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มุ่งมั่นสานต่อนโยบายเพื่อความยั่งยืน (sustainability) โดยการสร้างสรรค์นาฬิกาคอลเลกชันใหม่ล่าสุดด้วยความร่วมมือของ แบร์ กริลส์ (Bear Grylls) นักผจญภัยชื่อดังชาวอังกฤษ ที่นับเป็นตัวอย่างอันสมบูรณ์แบบในความพยายามของพวกเขา สู่นาฬิกา เซอร์ไววัล มาสเตอร์ ซีรีส์ สุดเท่ (Survival Master Series) ที่มาพร้อมตัวเรือน ขอบตัวเรือนรวมถึงสาย ทั้งหมดผลิตโดยใช้พลาสติกอัพไซเคิล #tide องค์กรดังจากสวิตเซอร์แลนด์ จากการนำขยะขวดน้ำที่เก็บมาจากทะเลไทย นำมาผ่านกระบวนการย่อยสลายให้นำมาใช้ซ้ำได้ใหม่ของการสร้างสรรค์นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมด้วยสามตัวเลือกของโทนสีสุดเท่ หน้าปัดและสาย ทั้ง เหลือง (Yellow), เขียว (Green) และน้ำเงิน (Blue) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมตัวเรือนและขอบตัวเรือนสีเขียวที่ทำจากวัสดุอัพไซเคิล พร้อมด้วยโลโก้ แบร์ กริลส์ ซึ่งโดดเด่นอยู่ ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ส่วนฝาหลังประทับรวมไว้ด้วยโลโก้ของทั้ง ลูมิน็อกซ์, แบร์ กริลลส์ และ #tide เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความร่วมมือถึงแบรนด์แห่งความยั่งยืนครั้งสำคัญนี้อย่างลงตัว

มอนเดนน์ (Mondaine) บริษัทแม่ของลูมิน็อกซ์ มุ่งมั่นอย่างแข็งขันเพื่อนำทางให้อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสได้ก้าวเข้าสู่การบรรลุถึงความพยายามเพื่อความยั่งยืนถาวร โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา แม้บรรลุถึงความสำเร็จมาแล้วมากมาย บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าผลักดันไปสู่งานออกแบบและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันยั่งยืนยาวนานมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับความร่วมมือในครั้งนี้ และด้วยนาฬิกา มาสเตอร์ ซีรีส์ ใหม่ ลูมิน็อกซ์ได้พบกับความท้าทายทั้งในแง่การสร้างสรรค์นาฬิกาและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกอีกต่อไประหว่างเรื่องราวของฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน และความยั่งยืน เพราะนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ได้หลอมรวมองค์ประกอบทั้งสามข้อไว้ทั้งหมด

เป็นทั้งนักผจญภัยผู้เอาชีวิตรอดและนักสิ่งแวดล้อม ที่แบร์ กริลส์ คือสัญลักษณ์ของการเสาะแสวงหาซึ่งความอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการจับมือร่วมกับลูมิน็อกซ์นี้เอง พวกเขาได้นำเสนอความร่วมมือครั้งใหม่ล่าสุดในนาฬิกา มาสเตอร์ ซีรีส์ #tide โครโนกราฟ (Master Series #tide Chronograph)

โดยแบร์ กริลส์ เผยว่า “วันคุ้มครองโลก (Earth Day) นี้มีความหมายสำคัญพิเศษสำหรับผมอย่างมาก เพราะผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตในผืนป่ากับการผจญภัยมามากมาย ซึ่งนาฬิกาตัวเรือนเวลาชิ้นใหม่นี้จากลูมิน็อกซ์ มีความโดดเด่นทั้งทางด้านสมรรถนะของการจับและวัดเวลา อีกทั้งพวกเรายังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม ร่วมลดปริมาณขยะในทะเล โดยการใช้วัสดุอัพไซเคิล #tide อีกด้วย”

ลูมิน็อกซ์ แบร์ กริลส์ เซอร์ไววัล มาสเตอร์ #Tide โครโนกราฟ 3740 จะเผยโฉมพร้อมกันทั่วโลก 22 เมษายนนี้ โดยศรีทองพาณิชย์ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ลูมิน็อกซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วางแผนจัดกิจกรรม CSR ชวนลูกค้ารายค้าสำคัญ จะได้ร่วมเดินทางไปกับขบวนการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ทะเล ทำกิจกรรมสุดชิคริมทะเล อีกทั้งยังได้ใกล้ชิดกับดาราสายอนุรักษ์อย่าง “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลใน สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เกาะมันใน จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายนนี้อีกด้วย

คุณสมบัติหลักลูมิน็อกซ์ แบร์ กริลส์ เซอร์ไววัล มาสเตอร์ #TIDE โครโนกราฟ 3740

ต้นกำเนิด – สวิส เมด (Swiss Made)

สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเสมอ – ด้วยการให้แสงสว่างคงที่ได้ยาวนานสูงสุดถึง 25 ปี ในทุกสภาวะแสง

ขนาด/ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง – 42 มม.

การกันน้ำ – 200 เมตร, 20 เอทีเอ็ม, 660 ฟุต, ผ่านการทดสอบทุกเรือน

กลไก – รอนดา 515 เอชเอฟ 6 (Ronda 515 HF 6)

แบตเตอรี/อายุแบตเตอรี – 395 / 50 เดือน

ตัวเรือน – #tide วัสดุจากมหาสมุทร; วัสดุขยะจากท้องทะเล พร้อมด้วยการปกป้องเม็ดมะยม

ขอบตัวเรือน – #tide วัสดุจากมหาสมุทร

สาย – #tide วัสดุจากมหาสมุทร

ฝาหลังตัวเรือน – สเตนเลสสตีล 316L, หมุนเกลียวลง

กระจก – แซฟไฟร์ พร้อมการเคลือบกันแสงสะท้อน

เม็ดมะยม – สเตนเลสสตีล 316L, หมุนเกลียวลง, เม็ดมะยมได้รับการปกป้อง พร้อมด้วยสีส้มสัญลักษณ์ของแบร์ กริลส์

หนา – 14 มม.

หนัก – 76 กรัม

ราคาขาย 34,600 บาท

สายมาตรฐาน          

#tide วัสดุจากมหาสมุทร สีเหลือง, เขียว, น้ำเงิน

Previous post OPPO ปล่อยภาพทีเซอร์เตรียมเปิดตัว OPPO Find X5 Pro 5G สมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุด 
Next post เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอบคุณคนไทยสำหรับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 พร้อมมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคต
Social profiles