ร้อนนี้ ซิกนิฟาย เปิดตัวช่วยคนไทย “ฟิลิปส์โซล่า…สว่างนานยันเช้า” ตอบโจทย์ค่าไฟแพง ค่าครองชีพพุ่งย้ำลดค่าไฟได้ 100% ณ จุดติดตั้ง หรือมากกว่าหลอดแบบเก่าถึง 6 เท่า

Read Time:5 Minute, 36 Second

ซิกนิฟาย (Signify) ผู้นำธุรกิจระบบไฟอัจฉริยะ หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างระดับโลก ส่ง 3 ผลิตภัณฑ์โซล่าเซลล์รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้แบรนด์ฟิลิปส์ ออกสู่ตลาดรับหน้าร้อนปีนี้ นอกจากจะเป็นการขานรับเมกะเทรนด์โลก ในการใช้พลังงานธรรมชาติช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ช่วยลดโลกร้อน ยังตอบโจทย์ผู้บริโภคเรื่องค่าไฟแพงค่าครองชีพสูงได้อย่างดี ช่วยลดค่าไฟบ้าน 100% ณ จุดติดตั้ง หรือ มากกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับการใช้หลอดไฟแบบเก่า  

ซิกนิฟาย ประเทศไทย เชื่อว่าโคมไฟโซล่าเซลล์จะสามารถช่วยลดการใช้พลังงานอย่างยั่งยื่นให้คนไทย ตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายรูปแบบ และเนื่องจากเข้าใจลักษณะภูมิประเทศของไทยเป็นอย่างดีที่อยู่ในโซนประเทศเขตร้อน เราจึงสามารถใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผนวกการสำรวจจุดด้อยของสินค้าโคมไฟโซล่าเซลล์ในตลาด รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการโคมไฟโซล่าเซลล์ที่สว่างเต็มวัตต์  สามารถใช้ได้จริงนานตลอดคืน จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โคมไฟโซล่าเซลล์ภายใต้ concept “ฟิลิปส์โซล่า…สว่างนานยันเช้า” โดยโคมรุ่นใหม่ที่เปิดตัวนี้ ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถเปิดได้ยันเช้าจริง ด้วยจุดเด่นที่สร้างความมั่นใจเหล่านี้

  • Trusted brand หรือแบรนด์ที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความเชื่อมั่น ไว้ใจ
  • เทคโนโลยีเม็ด LED ที่มีคุณภาพสูง ทำให้ได้ความสว่างมาก แต่กินไฟน้อย
  • แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ LiFePO4 ซึ่งปลอดภัยกว่าในอุณหภูมิความร้อนที่สูง
  • Function โหมดการทำงาน หลากหลายแบบ พร้อมทั้งปิดการทำงานเซ็นเซอร์ได้
  • คุณภาพมาตราฐานยุโรป [ European Quality ]

ขณะเดียวกันการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าวยังสอดรับกับมาตรการการปรับค่าไฟฟ้าผันแปรหรือค่าเอฟทีของรัฐบาลอันเป็นผลสะท้อนมาจากค่าพลังงานของโลกที่ถีบตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ จึงทำให้มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นอีก 4 สตางค์ต่อหน่วย ภายในเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคมศกนี้ และคาดการณ์ว่าในอนาคตอาจจะมีการปรับราคาขึ้นไปตามปัญหาเรื่องพลังงานของโลก  ดังนั้น การออกผลิตภัณฑ์โซล่าเซลล์ใหม่ทั้ง 3 ตัวนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของการช่วยลดค่าไฟฟ้าจากการใช้ไฟฟ้าภายนอกอาคาร  โดยสามารถประหยัดค่าไฟฟ้า ณ จุดที่ติดตั้งได้ 100% ซึ่งจะช่วยส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคในแต่ละปี ลงได้มากกว่า 6 เท่า (*โดยเทียบจากจุดที่เปลี่ยนไฟ)   โดยทางฟิลิปส์ได้เปรียบเทียบให้เห็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากขึ้นโดยการเปรียบเทียบโคมไฟการใช้งานประเภทเดียวกันแบบเดิม กับการเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโซล่าเซลล์รุ่นใหม่จากฟิลิปส์ เช่น การใช้โคมไฟถนนแบบหลอดฟลูออเรสเซนต์ ขนาด 2 x 36 วัตต์ ติดตั้งตามรั้วบ้าน ถนนหน้าบ้าน หรือซอย เปลี่ยนมาใช้โคมไฟถนน Street light โซล่าเซลล์จากฟิลิปส์ รุ่น BRC10 ขนาด 25 วัตต์ ทำให้ลดค่าไฟฟ้าลงได้ปีละ 1,244 บาท  หรือหากเทียบการใช้โคมไฟ Spotlight ฮาโลเจน ขนาด 150 วัตต์ ติดตั้งในสนามภายนอกอาคาร 1 จุด เปลี่ยนมาใช้โคมไฟ Floodlight โซล่าเซลล์จากฟิลิปส์ รุ่น BVC80 ขนาด 10 วัตต์ จะทำให้ลดค่าไฟฟ้าลงได้มากขึ้นถึงปีละ 2,529 บาท ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้มากถึง 6 เท่า ซึ่งนอกจากจะประหยัดเรื่องค่าไฟแล้วยังประหยัดค่าใช้จ่ายเดินสายไฟใหม่และติดตั้งไฟใหม่อีกด้วย เนื่องจากโคมไฟโซล่าเซลล์สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองโดนไม่จำเป็นต้องเดินจุดไฟใหม่

ผลิตภัณฑ์โคมไฟโซล่าเซลล์รุ่นใหม่จากฟิลิปส์ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ มีดังนี้

  • โคมไฟอเนกประสงค์ฟิลิปส์โซล่าเซลล์ (Solar Flood Light) รุ่น BRC010 มีให้เลือก 3 ขนาด 4, 6, 10 วัตต์ แผงโซล่าแบบ PV ขนาดเล็ก ตัวโคมกันน้ำระดับ IP65  มาพร้อมเลนส์นูนคุณภาพสูงให้การกระจายแสงได้กว่า ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมแบบ LiFePO4 ที่เลือกใช้งานได้หลากหลายถึง 7 โหมด รวมทั้งปิดการทำงานเซ็นเซอร์ได้ควบคุมผ่านรีโมทควบคุม
  • โคมไฟถนนฟิลิปส์โซล่าเซลล์ (Solar Street Light) รุ่น BVC080 มีให้เลือก 3 ขนาด 8, 16, 25 วัตต์ แผงโซล่าแบบ PV ติดตั้งมาในตัว ตัวโคมกันน้ำระดับ IP65  มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมแบบ LiFePO4 ปลอดภัยสูงติดตั้งระบบไมโครเวฟเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้กว้างและไกลเหนือกว่าเซ็นเซอร์ทั่วไป เลือกใช้งานได้หลากหลายถึง 7 โหมด รวมทั้งปิดการทำงานเซ็นเซอร์ได้ควบคุมผ่านรีโมทควบคุม
  • โคมไฟติดผนังฟิลิปส์โซล่าเซลล์ (Solar Wall Light) รุ่น BWS010 มีให้เลือก 3 ขนาด 0.5, 1, 3 วัตต์ แผงโซล่าแบบ PV ติดตั้งมาในตัว ตัวโคมกันน้ำระดับ IP54 เลือกความสว่างได้ถึง 3 ระดับ 4 โหมดการใช้งาน ที่สามารถเลือกปิดเซ็นเซอร์ได้ตามความต้องการ

นายจาร์กันนาธาน ศรีนิวาสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซิกนิฟาย ได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate action) ทำให้ซิกนิฟายได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพลังงานและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดตัวสินค้ากลุ่มโซล่าเซลล์รุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาดทั้งระดับ Professional และ Consumer จะช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองของโลกโดยหันมาใช้พลังงานตามธรรมชาติแทน  ตามแนวทางเพื่อชีวิตที่สดใสและโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรโลก สังคมและสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์โคมไฟโซล่าเซลล์รุ่นใหม่จากฟิลิปส์ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ตั้งเป้าช่วยผู้บริโภคชาวไทยประหยัดค่าไฟ ลดรายจ่าย และยังร่วมลดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ซึ่งได้วางกลยุทธ์ช่องทางการจำหน่าย (Place Strategy) ให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยการขายผ่านช่องทาง Philips lighting Official Store : Lazada, Shopee , JD พร้อมทั้ง Online partner : Powerbuy online, Homepro online  และในห้างอุปกรณ์ช่างและของแต่งบ้าน ร้านค้าไฟฟ้าชั้นนำทั่วประเทศเพื่อให้ซิกนิฟายก้าวสู่การเป็นผู้นำหน้าใหม่ของตลาดโคมไฟโซล่าเซลล์ในประเทศไทย

นายจาร์กันนาธาน กล่าวย้ำว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เป็นอยู่  ทำให้คนทำงานส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้มาตรการทำงานที่บ้าน WFH จึงทำให้มีผลต่อการใช้ไฟที่บ้านมากขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งตามปกติก็จะมีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าได้มีการวางแผนพิจารณาติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด  บริษัทฯ มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์โซล่าเซลล์จากฟิลิปส์ จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ตอบโจทย์เรื่องค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคได้อย่างดี และเชื่อว่าจะเป็นการเตรียมรับมือกับความผันผวนด้านราคาพลังงานของโลกที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตได้”

Previous post ททท. เตรียมจัดงานกิจกรรม “เย็นฉ่ำวิถีไทย  รื่นเริงใจในเมืองเก่า 2022”  2 จังหวัด ส่งมอบความสุขรับปีใหม่ไทย พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวครึกครื้น 
Next post ทัศนะมิติต่อการระบาดของโควิด…โดย ศ.ดร.ธีระศักดิ์ พัชรวิภาส
Social profiles