SCGC เผย โรงงาน LSP เดินเครื่อง Specialized Tank Terminal และ Central Utilities Plant เตรียมพร้อมด้านวัตถุดิบตั้งต้นและสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับการผลิตปิโตรเคมีที่เวียดนาม

Read Time:1 Minute, 47 Second

บ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (Ba Ria Vung Tau), เวียดนาม – 26 พฤศจิกายน 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) เผยความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีครบวงจร LSP เวียดนาม  (Long Son Petrochemicals หรือ LSP)  ล่าสุดได้เดินเครื่องส่วนหลักของคอมเพล็กซ์ ได้แก่ Specialized Tank Terminal และ Central Utilities Plant เพื่อเตรียมความพร้อมด้านวัตถุดิบตั้งต้น และการจัดการสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับการผลิตสินค้าปิโตรเคมีอย่างโอเลฟินส์ และพอลิโอเลฟินส์ โดยจัดพิธีเปิด ณ โรงงาน LSP ประเทศเวียดนาม

ซึ่งได้รับเกียรติจากนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นประธานเปิดงาน โดยมี นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG และคณะผู้บริหารจาก SCG และ SCGC ให้การต้อนรับ  ถือเป็นก้าวสำคัญของโครงการ LSP ปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนาม ซึ่งจะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในประเทศเวียดนามและอาเซียน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG กล่าวว่า “LSP เป็นโครงการสำคัญของ SCG และ SCGC โดยนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ตลอดทั้งกระบวนการ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในประเทศเวียดนาม ช่วยลดการนำเข้า และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมปลายน้ำ นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั้งในประเทศเวียดนามและภูมิภาคอาเซียนต่อไป”

ทั้งนี้ LSP ได้เริ่มเดินเครื่องส่วนหลักของโครงการฯ ได้แก่  Specialized Tank Terminal และ Central Utilities Plant ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือเพื่อขนส่งไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon Jetties) คลังเก็บวัตถุดิบ(Tank Farm) และสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utilities: CTU)  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการป้อนวัตถุดิบตั้งต้น รวมทั้งการจัดการระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับการผลิตสินค้าปิโตรเคมีอย่างโอเลฟินส์ และพอลิโอเลฟินส์   โดยวางแผนกำลังการผลิตโอเลฟินส์ 1.35 ล้านตันต่อปี และพอลิโอเลฟินส์ อย่างพอลิเอทิลีน และพอลิโพรพิลีน 1.4 ล้านตันต่อปี  ซึ่งจะช่วยทดแทนการนำเข้าพอลิโอเลฟินส์ของประเทศเวียดนามได้

Previous post กรุงศรี ออโต้ ตอกย้ำสุดยอดแบรนด์สินเชื่อยานยนต์แห่งปีครองใจผู้ใช้รถ คว้ารางวัล Superbrands ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 
Next post นิตยสาร Business+ จับมือสถาบัน ICTI – สอท – ETDA จัดงาน “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION SYMPOSIUM 2022”
Social profiles