ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) สัมมนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และ GCC1111 ประจำปี 2566

Read Time:2 Minute, 15 Second

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และ GCC1111 ประจำปี 2566 โดยมี นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด( มหาชน) ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบบริหารจัดการโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) เข้าร่วมในพิธีฯ ด้วย การจัดสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และศูนย์บริการภาครัฐเพื่อประชาชน GCC1111 ประจำปี 2566

ซึ่งการสัมมนาในวันนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งแบบ onsite และผู้เข้าร่วมสัมมนาผ่านระบบ online เพื่อให้เครือข่ายภาครัฐได้รับทราบผลการปฏิบัติภารกิจของศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) และคำนึงถึงความสำคัญของการบูรณาการข้อมูลเครือข่ายภาครัฐ ตลอดจนเพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทของผู้ประสานงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน รวมถึงแนวทางปฏิบัติงาน การให้บริการ Contact Center

โครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) กำกับดูแลโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมอบหมาย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินงานโครงการฯ ภารกิจสำคัญ คือการทำหน้าที่เป็นช่องทางหลักให้กับประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐ ปัจจุบันข้อมูลที่ให้บริการประกอบด้วย การให้บริการข้อมูลภาครัฐ ข้อมูลบริการ ข้อมูลการติดต่อข่าวสาร รวมถึงบริการรับเรื่องร้องเรียนของหน่วยงานภาครัฐทั้ง 20 กระทรวง ส่วนงานที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการอื่น ๆ GCC 1111 ได้ดำเนินการยกระดับศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชนให้เป็น GCC 1111 อัจฉริยะ เพื่อให้สอดรับกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญในการให้บริการผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น

การเข้าถึงช่องทาง GCC 1111 ของประชาชน มีหลากหลายช่องทาง โดยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สอดรับกับวิถีชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน ทั้งทางระบบโทรศัพท์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) เว็บไซต์ (website) การสนทนาออนไลน์ผ่านเว็บ (Web Chat) และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ได้แก่ ช่องทาง Facebook ,Twitter , Instagram , Pantip และเพิ่มช่องทางในการรับการประสานงานจากภาคประชาชน โดยการนำเทคโนโลยี Voice Bot ผ่านช่องทางโทรศัพท์และ Chat Bot มาใช้ มีระบบการค้นหาข้อมูล (Search Engine) ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ www.gcc.go.th เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดรับกับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน​ ​​​​​​​​​​

Previous post “กรังด์ปรีซ์” จับมือ “ฮอนด้า” ระเบิดความมันส์ “ฮอนด้า วันเมคเรซ 2023” พร้อมเปิดตัว “ซีวิค” เสริมทัพ “ซิตี้” เอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย
Next post TCL เตรียมจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
Social profiles