มองไปข้างหน้า หลังการประชุม COP26 : ความร่วมมือไทย-เยอรมันกับการสู้กับ Climate Change
การประชุมครั้งนี้เปิดเวทีให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนแนวคิด และทิศทางการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย โดยในช่วงการเสวนาได้รับเกียรติจากผู้แทนหน่วยงานที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ประกอบด้วยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรอิสระกว่า 300 คน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษว่า “การทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีทั้งการดูแลภาคการปลดปล่อยและการดูดซับก๊าซเรือนกระจก นอกจาก ทส. จะเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศแล้ว ยังมีภารกิจสำคัญในการดูแลภาคดูดซับของก๊าซเรือนกระจก โดยการเพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวของประเทศให้ได้ร้อยละ 55 ตามที่กำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นการเพิ่มพื้นที่ดูดซับของก๊าซเรือนกระจก หรือ Carbon sinks ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยอีกหลายกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอีกหลายๆ หน่วยงานจะต้องมาช่วยกันลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก...การทำงานจากนี้ไป ทุกภาคส่วนจะต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน” “หลังจากงานวันนี้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะประสานและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบ เพื่อให้การดำเนินงานของประเทศไทยประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่อไป”ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวอย่างมุ่งมั่น ...