ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในนักท่องเที่ยว
ปัญหาผิวหนัง เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในนักท่องเที่ยว โดยโรคที่พบมากได้แก่ แมลงสัตว์กัดต่อย อาการคันจากผิวแห้ง และผิวไหม้จากแสงแดดโดยแต่ละพื้นที่จะพบปัญหาผิวหนังที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนออกเดินทาง เราควรศึกษาหาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวให้ละเอียด เพื่อเตรียมป้องกันตนเองจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปค่ะ บทความนี้ขอเน้นเรื่องแมลงสัตว์กัดต่อย ตามประเภทของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มาเรียนรู้กันว่า เราอาจจะพบเจ้าถิ่นแบบไหนและป้องกันอย่างไรก่อนเดินทางนะคะ เที่ยวทะเล .... 1.ริ้นทะเล (ปึ่ง) ริ้นทะเลมีขนาดเล็กกว่ายุง เป็นแมลงบิน อยู่กันเป็นฝูงตามชายหาดและป่าชายเลน เรามักจะมองไม่เห็นตัวริ้นได้ยินแต่เสียงหึ่ง ๆ ริ้นทะเลบินได้ไม่สูงและไม่ไกลเกิน 1-2 กิโลเมตร ตัวเมียดูดเลือดสัตว์เป็นอาหารเพื่อใช้ในการผลิตไข่ ตัวผู้กินแมลง ซากเน่าเปื่อย ออกหากินเวลาเช้าตรู่และพลบค่ำส่วนของปากที่ใช้ดูดเลือดมีอวัยวะตัดเฉือนเนื้อเยื่อทำให้ผื่นผิวหนังของคนที่ถูกริ้นทะเลดูดเลือดจะมีรูตรงกลางเห็นได้ชัด ไม่ใช่เป็นจุดเล็กๆแบบยุงกัด มักพบหลายตุ่มบริเวณผิวหนังนอกร่มผ้า บางครั้งผื่นอาจเป็นคล้ายจ้ำเลือดเพราะขณะที่ริ้นทะเลกัดจะปล่อยสารยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ...การป้องกัน ไม่ไปเดินเล่นชายหาด บริเวณที่มีพุ่มไม้รก หรือป่าชายเลน ช่วงโพล้เพล้ ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ใช้ยากันแมลงพ่นที่ตัวเรา 2.พยาธิชอนไชผิวหนัง เกิดจากการเคลื่อนที่ตัวอ่อนของพยาธิสัตว์บนผิวหนังชั้นนอกของคน ตัวอ่อนของพยาธิไชเข้ามาขณะที่เรานั่งหรือนอนเล่นบนพื้นทรายที่มีการปนเปื้อนของมูลสัตว์ เช่น สุนัข แมว เนื่องจากคน ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่พยาธิเติบโต พยาธิตัวอ่อนจึงอยู่ได้แค่ในผิวหนังกำพร้าแล้วตายไปในที่สุด ผื่นผิวหนังตอนแรกจะเกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงก่อน คันมาก เมื่อตัวอ่อนพยาธิเริ่มเคลื่อนที่จะเห็นผื่นเป็นเส้นนูนคดเคี้ยว สีแดงกว้าง 2-3มิลลิเมตร ผื่นอาจมีความยาวได้ถึง 20 เซ็นติเมตร พบมากที่บริเวณเท้า ก้น ลำตัว ขา หรือบริเวณอื่น ๆ ที่สัมผัสกับดินโดยตรง…การป้องกัน หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า การนั่งหรือใช้มือสัมผัสดินปนทรายนาน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิมากกว่าบริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึง...