COTTON USA เปิดแผนรุกตลาดปี 60 ทุ่มงบถึง 33 ล้านบาท

Read Time:5 Minute, 6 Second

ยอดผลผลิตฝ้ายสหรัฐอเมริกาในปี 2559 เติบโตขึ้น 25.2% มียอดส่งออกพุ่งขึ้น 30.7% ขณะที่การนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา ในอาเซียนโตสูงขึ้นถึง 46.4% ล่าสุด คอตตอน ยูเอสเอ เปิดแผน การตลาดมุ่งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกลุ่มไลเซนซีทั้งกลุ่มแบรนด์และกลุ่มโรงงาน พร้อมเปิดตัว  แบรนด์ไลเซนซี 3 แบรนด์ใหม่ในกลุ่มเสื้อผ้าผู้ชายและยีนส์ อย่าง ลี คูเปอร์” “แมนเชสเตอร์และ เซิร์ฟเท็ค เพื่อรองรับเทรนด์การช้อปปิ้งของเสื้อผ้าผู้ชายที่เพิ่มขึ้น และทุ่มงบกว่า 33 ล้านบาท เดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกับไลเซนซี เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าเพิ่มจำนวน ไลเซนซีอีก 3 รายภายในปี 2560 และเตรียมเร่งเครื่องลุยตลาดอาเซียนเต็มกำลัง โดยเฉพาะเวียดนาม รวมถึงเล็งทำตลาดที่อินโดนีเซียในปีหน้า 

นายไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่า “ในปี 2559 ภาพรวมอุตสาหกรรมฝ้ายสหรัฐอเมริกา พบว่ามีการขยายตัวสูงขึ้น โดยยอดผลผลิตฝ้ายรวมทั้งหมด 3,751,000 ตัน เติบโตขึ้นถึง 25.2% โดยประเทศสหรัฐอเมริกายังคงครองตำแหน่งผู้นำในการส่งออกฝ้ายมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 2,874,000 ตัน ซึ่งเติบโตขึ้นราว 30.7% และการนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 46.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังคิดเป็นสัดส่วนราว 36.7% ของการส่งออกฝ้ายทั้งหมดจากสหรัฐอเมริกา โดยประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีการนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ประเทศเวียดนาม 323,974 ตัน ประเทศอินโดนีเซีย 157,328 ตัน และประเทศไทย 61,681 ตัน ฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการและผู้บริโภค เนื่องจากความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของคนไทยเพิ่มมากขึ้น จากยอดการนำเข้าฝ้ายสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 28% เมื่อเทียบกับปี 2558” 

ปี 2560 นี้ COTTON USA ยังคงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการทำการตลาดร่วมกับกลุ่มไลเซนซีทั้ง 2 กลุ่ม โดยใช้กลยุทธ์แบบดีมานด์พูล (Demend Pull) กับกลุ่มแบรนด์ไลเซนซี ด้วยการจัดกิจกรรมทางการตลาดให้กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารและสร้างความตระหนักรู้ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเส้นใยฝ้ายคุณภาพสหรัฐอเมริกา ไปยังผู้บริโภคคนไทยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มอุปสงค์ในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย และใช้กลยุทธ์แบบซัพพลายพุช (Supply Push) ที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่กลุ่มไลเซนซีโรงงาน คอตตอน ยูเอสเอจะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเชื่อมต่อกลุ่มผู้ผลิตที่ใช้เส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำธุรกิจร่วมกัน เป็นการต่อยอดทางธุรกิจ เปิดโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถของโรงงานต้นน้ำในแถบอาเซียน ให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างเต็มที่”

“โดยในปีนี้ คอตตอน ยูเอสเอ ได้จัดเตรียมทุ่มงบการตลาดรวมทั้งปีกว่า 33 ล้านบาท เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมรุกตลาดเสื้อผ้าผู้ชาย ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ไลเซนซีใหม่ถึง 3 แบรนด์ด้วยกัน นำโดย

คุณพิพิธ พงษ์พิพัฒนากุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายยีนส์ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ “ลี คูเปอร์” เป็นแบรนด์แฟชั่นยีนส์วัยรุ่นสุดฮิปสไตล์อีสต์ลอนดอน เจาะกลุ่มผู้บริโภค อายุ 18 ปี – 30 ปี สินค้าจะเน้นถึงคุณภาพ ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย สวมใส่สบาย

 

คุณทัตเทพ ลีฬหเกรียงไกร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็ม.ซี.ที. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “แมนเชสเตอร์” เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสุภาพบุรุษสัญชาติไทย สไตล์เรียบหรู ที่ทำตลาดในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี เจาะกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ออกแบบให้เหมาะใช้ใส่ได้กับทุกงาน ทุกวาระ มีความประณีต สวมใส่สบาน คงทน คอลเลคชั่นปีนี้มีคอนเซปท์ Day to Night  

คุณลัดดาวรรณ ปัญญาธร ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เอ็ม.ซี.ที.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “เซิร์ฟเท็ค” เป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายสไตล์สตรีทแวร์กลิ่นอายเซิร์ฟแวร์สัญชาติออสเตรเลีย เจาะกลุ่มอายุ 18 – 25 ปี คอลเลคชั่นปีนี้ จะเน้นสีกรมท่า  ,เทา, ขาว แดง เสื้อผ้าจะเน้นเป็นลายเส้น ลายจุด เพื่อความเก๋ไก๋ แบบชิค ๆ

คอตตอน ยูเอสเอเตรียมเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับไลเซนซีอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ การทำแคมเปญโปรโมชั่นร่วมกับไลเซนซีเพื่อหาผู้โชคดี  ร่วมเดินทางไปสัมผัสกับไร่ฝ้ายสหรัฐอเมริกาในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 นอกจากนี้ ทางคอตตอน ยูเอสเอ ได้จัดงาน Sourcing Fair ณ ประเทศฮ่องกง ซึ่งคอตตอน ยูเอสเอ ทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยงจับคู่ทางธุรกิจระหว่างกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่ใช้เส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา กับกลุ่มแบรนด์และผู้ค้าปลีก เพื่อสร้างโอกาสในการซื้อขาย และเพิ่มโอกาสในการสร้างคู่ค้าทางธุรกิจให้มากขึ้น รวมถึงการจัดงานสัมมนาในหัวข้อต่าง ๆ และการแบ่งปันข้อมูลจาก ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในทุก ๆ 2 ปี เช่น Global Lifestyle Monitor และ Mark Tracking Survey เป็นต้น

ปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียน คอตตอน ยูเอสเอมีแบรนด์ไลเซนซีในกลุ่มเสื้อผ้าและเคหะสิ่งทอ จำนวน 55 แบรนด์ และกลุ่มโรงงานจำนวน 60 ราย โดยสำหรับประเทศไทย มีแบรนด์ไลเซนซีในกลุ่มเสื้อผ้าและเคหะสิ่งทอ จำนวน 27 แบรนด์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ จำนวน 2 แบรนด์ และกลุ่มโรงงานจำนวน 30 ราย และได้วางเป้าหมายที่จะขยายแบรนด์ไลเซนซีจำนวน 3 แบรนด์ โดยในจำนวนดังกล่าวนี้จะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องประกอบบริขารการนุ่งห่มสำหรับพระสงฆ์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมขึ้นมา และในกลุ่มโรงงานอีก 3 รายภายในปีนี้ นอกจากนี้ คอตตอน ยูเอสเอเตรียมเดินหน้ารุกตลาดอาเซียนอย่างเต็มที่ โดยเริ่มจากประเทศเวียดนาม ที่วางแผนจะเปิดตัวแบรนด์ไลเซนซีเป็นครั้งแรก 3 ราย ควบคู่ไปกับการจัดแคมเปญโปรโมชั่นใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค พร้อมทั้งเล็งทำกิจกรรมสำหรับผู้บริโภคที่ประเทศอินโดนีเซียในปีหน้า เพื่อขยายการรับรู้ของแบรนด์คอตตอน ยูเอสเอ ไปยังผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนในวงกว้างมากขึ้น

 

Previous post แอลจี เสนอเมนูจานโปรด ด้วยเตาอบไมโครเวฟ NeoChef™
Next post ซูเปอร์สปอร์ต เครือกลุ่มเซ็นทรัล เผยทิศทางธุรกิจ พร้อมรับยุคดิจิทัล 4.0
Social profiles