“ไมเนอร์ ฟู้ด” ลุยตลาดครึ่งปีหลัง เดินหน้าพัฒนาร้านอาหารครบวงจรรับวิถีใหม่

Read Time:4 Minute, 6 Second

บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศเปิดเผยแผนกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง พ.ศ. 2563 ด้วยการเพิ่มรายได้ผ่านการพัฒนาด้านต่าง ๆ อาทิ ยกระดับการบริการด้านเดลิเวอรี่ การพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค การสร้างโมเดลร้านรูปแบบคีออส ให้บริการแกร็บแอนด์โกที่เข้ากับวิถีชีวิตคนเมือง การพัฒนา “Cloud Kitchen” โมเดลครัวกลาง และการพัฒนาการดำเนินงานและกระบวนการจัดซื้อสรรหาวัตถุดิบเพื่อให้เกิดการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการประยุกต์ใช้นวัตกรรม ปัจจุบัน ร้านอาหารของไมเนอร์ ฟู้ดในประเทศไทยกลับมาเปิดให้บริการแล้ว 95% โดยทุกร้านได้รับการยกระดับมาตรฐานสุขอนามัย ความสะอาดกับความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและพนักงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อันเข้มงวด พร้อมเครื่องมือทำความสะอาดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยระดับสากล

มร. ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และรักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ ฟู้ด กล่าวว่า กลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยแบรนด์ร้านอาหารที่เป็นที่รู้จักได้แก่ The Pizza Company, Swensen’s, Sizzler, The Coffee Club, Dairy Queen, Burger King และ Bonchon รวมมากกว่า 2,200 ร้านใน 26 ประเทศ ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายประเภทได้อย่างครอบคลุม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไมเนอร์ ฟู้ดจึงเร่งปรับตัวพัฒนาองค์กร การที่บริษัทฯกระจายการลงทุนช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบได้ดี ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร หรือเดลิเวอรี่ และบริการซื้อกลับบ้านมีการเติบโตขึ้น ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการดำเนินในต่างประเทศนั้นมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศจีนซึ่งกว่าร้อยละ 90 ของสาขาร้านอาหารทั้งหมดได้เปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โรคระบาดที่คงที่และปรับตัวดีขึ้น โดยยอดขายมีการปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับในทุกสัปดาห์ และกลับมามีกำไรในระดับร้านสาขาในเดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าการดำเนินงานในประเทศจีนจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตภายในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

ด้าน นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไมเนอร์ ฟู้ด ได้เสริมความพร้อมของการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2563 ประกอบไปด้วย

  • ยกระดับบริการเดลิเวอรี่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มการสั่งอาหารออนไลน์ ตามวิถีชีวิต New Normal
  • พัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ผ่านการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาทางด้านนวัตกรรมให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่  รวมถึงการใช้ช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิผล เช่น การพัฒนาสินค้าตัวใหม่ หรือการออกแคมเปญการตลาดที่มีความสร้างสรรค์ ดึงดูดลูกค้าได้ดี จุดประสงค์ของแผนนี้คือเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้มากขึ้น
  • โมเดลร้านรูปแบบคีออส  เป็นการบริการแกร็บแอนด์โกที่ตั้งร้านอยู่ใกล้กับความสะดวกของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ สถานที่ทำงาน รถไฟฟ้า ฯลฯ  โดยตัวอย่างร้านที่ดำเนินโมเดลลักษณะนี้แล้ว ได้แก่  ซิซซ์เลอร์ ทูโก ร้านอาหารรูปแบบคีออสที่ตั้งอยู่ติดย่านธุรกิจในเมืองกรุง มาพร้อมกับตัวเลือกเมนูเพื่อสุขภาพจากผักสดอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อีกทั้งยังประกอบด้วยแหล่งโปรตีนคอเลสเตอรอลต่ำ ซึ่งนอกจากร้านรูปแบบคีออส ร้านอื่น ๆ เช่น เดอะ คอฟฟี่ คลับ ก็ผลักดันบริการแกร็บแอนด์โก เช่นกัน
  • พัฒนา “Cloud Kitchen” โมเดลครัวกลางรูปแบบใหม่ให้บริการที่ สะดวก ใกล้บ้าน จากการนำเอาคอนเซ็ปต์ Cloud มาประยุกต์ใช้กับร้านอาหาร เกิดเป็น Cloud Kitchen ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ลูกค้าที่สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ได้รับอาหารรวดเร็วขึ้น สดร้อนเหมือนมีเชฟมาปรุงให้ที่บ้าน ด้วยที่ตั้งสาขาใกล้บ้านในระยะ 3 กิโลเมตร อีกทั้งสามารถสั่งอาหารได้หลายแบรนด์ ภายในออเดอร์เดียว เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสดใหม่ของอาหารที่จำหน่าย ทั้งนี้ ไมเนอร์ ฟู้ดประมาณการไว้ว่า Cloud Kitchen จะช่วยทำให้บริการเดลิเวอรี่ของไมเนอร์ ฟู้ดครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในย่านชุมชน  

อย่างไรก็ตามเพื่อยกระดับมาตรฐานสุขอนามัยกับความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและพนักงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ไมเนอร์ ฟู้ดจึงได้ตั้งโปรเจค “Business Beyond COVID” ด้วยอบรมพนักงานด้านการให้บริการที่สะอาดอย่างเข้มข้นขึ้น โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นหลัก ผ่านแคมเปญรักษาความปลอดภัยของอาหาร ได้แก่ “Zero Touch Delivery” “Safety Seal” และ “Easy Pick Up” ของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี หรือการจ่ายไร้เงินสดเมื่อสั่งอาหารในร้านเบอร์เกอร์ คิง นอกจากนั้น ธุรกิจในเครือมีการใช้เครื่องทำความสะอาด และน้ำยาทำความสะอาด จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัย อีโค่แล็บ (ECOLAB) กับไดเวอร์ซี่ (Diversey) ซึ่งต่างเป็นเครื่องมือทำความสะอาดคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในธุรกิจบริการอาหาร การแปรรูปอาหาร โรงแรมและงานดูแลสุขภาพ

Previous post สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ “สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” เร่งปฏิรูปทุกด้าน
Next post ททท. ชวนไกด์ส่งคลิปท่องเที่ยวเมืองไทยในโครงการ Amazing Thailand Guide Sharing
Social profiles