กลุ่มมิตรผล ส่งภาพยนตร์โฆษณาใหม่ล่าสุด “ศูนย์ที่ไม่สูญเปล่า” ชูแนวคิดการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ชวนทุกคนกู้โลก ลดการปล่อยคาร์บอน มุ่งหน้าสู่ Net Zero ร่วมกัน 

Read Time:4 Minute, 15 Second

กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในภาคเกษตรอุตสาหกรรมของไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายของนานาประเทศจากเวทีการประชุม COP26* ส่งภาพยนตร์โฆษณาใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศูนย์ที่ไม่สูญเปล่า” ตอกย้ำเป้าหมายในการเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2030* และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050* ด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกผลลัพธ์แห่งความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของพันธมิตรทุกฝ่าย พร้อมเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ทุกคนในสังคมเห็นประโยชน์ และพลังในตัวเองในการร่วมเป็นส่วนเล็กๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นกว่าเดิม

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “กลุ่มมิตรผล ดำเนินงานด้วยแนวคิดที่มุ่งมั่นให้คนรอบข้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า และไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่อ้อย คู่ค้า ผู้บริโภค ชุมชน หรือภาคอุตสาหกรรม ล้วนมีบทบาทสำคัญและเป็นฮีโร่ที่จะสร้างคุณค่าในแบบของตนเอง และเชื่อมั่นในพลังของส่วนรวมที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง แม้ว่าวันนี้ กลุ่มมิตรผลสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1.9 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ และนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2050 ผ่านโครงการต่างๆ ที่เรากำลังทำ และเตรียมความพร้อมในอนาคต”

ภาพยนตร์โฆษณา “ศูนย์ที่ไม่สูญเปล่า” เล่าเรื่องผ่านตัวละครคนธรรมดาอย่าง “ป้านิด” แม่ค้าขายอาหาร ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็กๆ  อย่างการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก “พี่ประเสริฐ” หนุ่มข้าราชการ ที่เริ่มตระหนักถึงการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ปิดไฟเมื่อไม่ใช้ ดึงปลั๊กออกเมื่อชาร์จแบตจนเต็ม ช่วยเซฟทั้งพลังงานและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และยังให้โอกาสโลกได้พัก หรือ “ลุงผล” เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการทำเกษตรสมัยใหม่และตัดอ้อยสด อีกทั้งทุกคนยังร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อช่วยลดคาร์บอนและเพิ่มออกซิเจนให้กับโลก ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยของทั้ง 3 คนนี้ เมื่อมารวมกันจะสามารถสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เปรียบเสมือน Butterfly Effect ดังที่มาของชื่อคอนเซ็ปต์ภาพยนตร์โฆษณาที่ว่า “ความร่วมมือของทุกคนเพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์นั้น จะนำไปสู่อนาคตที่ไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน”

นอกจากภาพยนตร์จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นกันเองในมุมที่อบอุ่น เข้าใจง่าย เข้าถึงคนทุกกลุ่มวัยแล้ว ยังแฝงไว้ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่โลกกำลังเรียกร้อง และความเข้าใจว่า Net Zero ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถช่วยกันเปลี่ยนแปลงคนละเล็กละน้อยได้ทันที รวมทั้งได้บอกเล่าการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผลที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: SDGs) และหลัก BCG ซึ่งเป็นนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจใน 3 มิติของประเทศ ผ่านกรอบแนวทางดำเนินงานทั้ง 6 ด้าน ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ 

1. ผู้ผลิตพลังงานทดแทนรายใหญ่ของประเทศไทยและใช้พลังงานทดแทนในกระบวนการผลิต 

2. พัฒนาต่อยอดอ้อยและน้ำตาลสู่ธุรกิจ Bio-Circular-Green Economy Model (BCG Model) 

3. ทำเกษตรสมัยใหม่อย่างยั่งยืน 

4. ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ 

5. ปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่อง

6. ชดเชย กักเก็บ และใช้ประโยชน์จากก๊าซเรือนกระจก (Carbon Capture Utilization and Storage: CCUS) 

กลุ่มมิตรผล วางแผนปล่อยภาพยนต์โฆษณาดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2565 ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง และสอดรับกับพฤติกรรมการเปิดรับสื่อขอผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน รวมถึงส่งต่อแรงบันดาลใจและ
เชิญชวนให้ทุกคนหันมาเป็นหนึ่งกำลังในการร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนำพาประเทศไทยก้าวสู่สังคมไร้คาร์บอน
ไปพร้อมกัน

สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณา “ศูนย์ที่ไม่สูญเปล่า จากกลุ่มมิตรผล ได้แล้ววันนี้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=Q1fMCLfbRIY หรือ https://www.facebook.com/watch/?v=600085328166244

#ศูนย์ที่ไม่สูญเปล่า #MitrPholNetZero2050 #มิตรผล #mitrphol

* เป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ในเวทีการประชุม COP26

1. เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ปี ค.ศ. 2050

2. เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ปี ค.ศ. 2065

* เป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผล

1. เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ปี ค.ศ. 2030

2. เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ปี ค.ศ. 2050

Previous post อีวี ไพรมัส เดินหน้านโยบายการดูแลลูกค้า 1,000 คันแรก ยืนยันการส่งมอบในปี 2565 สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า VOLT CITY EV 1,000 คนแรกให้ดีที่สุด 
Next post คณะกรรมการแถลงผลการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ภายใต้แนวคิด CSLH Thailand Collaboration for Change
Social profiles