คปภ. เปิดเวทีติวเข้ม “ผู้ไกล่เกลี่ย” ชุดใหม่ ถอดบทเรียนข้อพิพาทด้านประกันภัย

Read Time:4 Minute, 38 Second

พร้อมเติมองค์ความรู้ก่อนรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อปรับปรุงกลไกการไกล่เกลี่ยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาผู้ไกล่เกลี่ยและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาทักษะและถอดบทเรียนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ณ คุ้มดำเนิน รีสอร์ท จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนทั้งสิ้น 121 คน ประกอบด้วย ผู้ไกล่เกลี่ย จำนวน 70 คน ผู้บริหารและพนักงานของสำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน 51 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ไกล่เกลี่ยมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และระดมความคิดเห็นจากบทเรียนที่เกิดขึ้นจริงในการปฏิบัติงานการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อนำไปพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการจัดสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายธวัชไชย สนธิวนิช อดีตตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง และอนุญาโตตุลาการ สำนักงาน คปภ. ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “แนวทางการพิจารณาประเด็นข้อพิพาทด้านการประกันภัยที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ไกล่เกลี่ย” และได้รับเกียรติจาก นายโชติช่วง ทัพวงศ์ อดีตผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอุทธรณ์ ภาค 7 และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการความขัดแย้งและไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้เกียรติบรรยายในหัวข้อ “แนวทางและเทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย” เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำกิจกรรมถอดบทเรียนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้นต่อไป และในโอกาสนี้สำนักงาน คปภ. และผู้ไกล่เกลี่ยฯ ที่เข้าร่วมสัมมนาได้ร่วมกันจัดกิจกรรม CSR ณ วัดราษฎร์เจริญธรรม (วัดสุน) โดยบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการทำความสะอาดลานวัด และร่วมกันทำบุญถวายสังฆทานเพื่อเป็นศิริมงคลด้วย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า การดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยโดยผู้ชำนาญการ นับตั้งแต่เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปี มีเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยผู้ชำนาญการทั้งสิ้น 1,565 เรื่อง โดยไกล่เกลี่ยสำเร็จเป็นจำนวน 1,227 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 78.40 ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีพอสมควร และหากได้มีการถอดบทเรียนเพื่อรับทราบประเด็นปัญหาและอุปสรรคในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในทุก ๆ ปี และได้หาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขอย่างเป็นระบบก็จะทำให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสัมฤทธิ์ผลและมีสถิติเรื่องร้องเรียนที่สามารถยุติประเด็นข้อพิพาทได้มากยิ่งขึ้น

ผู้ไกล่เกลี่ย ชุดที่ 4 จำนวน 80 คน ได้รับการขึ้นทะเบียนรายชื่อฯ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565ประกอบด้วยกลุ่มผู้ไกล่เกลี่ยเดิมที่มีประสบการณ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยมาแล้ว และกลุ่มผู้ไกล่เกลี่ยใหม่ที่ยังไม่เคยเป็นผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. มาก่อน โดยในปัจจุบันกลุ่มผู้ไกล่เกลี่ยใหม่หลายท่านได้รับเรื่องไกล่เกลี่ยจากสำนักงาน คปภ. ไปบ้างแล้ว ซึ่งผู้ไกล่เกลี่ยแต่ละท่านอาจใช้เทคนิคหรือวิธีการในการไกล่เกลี่ยที่แตกต่างกัน และอาจพบปัญหาหรืออุปสรรคในการไกล่เกลี่ยที่แตกต่างกัน ดังนั้นเวทีการสัมมนาในครั้งนี้จึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลผู้ไกล่เกลี่ยฯ เกี่ยวกับทิศทางและนโยบายในการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ในปี 2566 โดยสำนักงาน คปภ. จะปรับทิศทางในการกำกับดูแลอย่างรอบด้าน จากที่เคยอยู่ในสถานะของการตั้งรับและเรียนรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบประกันภัยและเดินทางไปสู่การสร้างสมดุลของระบบประกันภัย ควบคู่กับการเสริมสร้างความทนทาน มั่นคง และยืดหยุ่นให้กับระบบประกันภัย ประกอบกับในปี 2566 เป็นปีสุดท้ายของการดำเนินการขับเคลื่อนภายใต้แผนยุทธศาสตร์ สำนักงาน คปภ. ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2564 – 2566) จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์และผลลัพธ์ที่คาดหวังให้ระบบประกันภัยไทยมีความมั่นคง ยั่งยืน และแข่งขันได้ในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ 

สำหรับการจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยและการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสัญจร ในปี 2566 ได้มอบหมายให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประสานการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่ในการดำเนินการให้มากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้จะขยายการดำเนินการไปยังสำนักงาน คปภ. ภาค ที่ไกลขึ้น หรือเป็นพื้นที่ที่เป็นสถานที่ทำการอนุญาโตตุลาการ เช่น สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) หรือสำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) เพื่อจะได้เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับกลุ่มอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของผู้ไกล่เกลี่ยและพนักงานที่เกี่ยวข้อง

“การนำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการมาช่วยแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับประชาชนในการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัยด้วย ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะได้นำข้อเสนอแนะที่ได้จากการถอดบทเรียนในการสัมมนาครั้งนี้ไปปรับปรุงการทำงานของศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ สำนักงาน คปภ. ให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Previous post “HMC Polymers” เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 40 อย่างมั่นคง มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เสริมทัพผู้นำใหม่ รุกตลาดตอกย้ำความเป็นผู้นำ PP ผ่านแนวคิด “INNOVATE ENDLESS POSSIBILITIES”
Next post สุดยอดกูรู เผยเคล็ดลับการตลาดออนไลน์สุดปัง ในงาน “Thailand Ads Multiverse”
Social profiles