คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือด้านประกันภัยกรณี “รถเมล์สาย 8 ชนรถกระบะ” สี่แยกรัชดา กทม.

Read Time:3 Minute, 56 Second

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถโดยสารประจําทาง ร่วมบริการสาย 8 เส้นทาง แฮปปี้แลนด์ – สะพานพุทธ ทะเบียน 10-9776 กรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุชนกับรถกระบะบรรทุก ทะเบียน ณษ 892 กรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกรัชดา ลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 16 ราย ถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 โรงพยาบาล ภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน และโรงพยาบาลลาดพร้าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 น้ัน เบ้ืองต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สํานักงาน คปภ. เขตบางนา และสํานักงาน คปภ. เขตท่าพระ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทําประกันภัยพร้อมเร่งอํานวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออํานวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัวอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม


ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสํานักงาน คปภ. เขตท่าพระ ว่า รถโดยสารประจําทาง ร่วมบริการสาย 8 ทะเบียน 10-9776 กรุงเทพมหานคร ได้ทําประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จํากัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพ อย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

นอกจากนี้ รถคันดังกล่าว ทําประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จํากัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 โดยกรมธรรม์ให้ความ คุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกจํานวน 800,000 บาทต่อคน คุ้มครองความ เสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก จํานวน 1,000,000 บาท และให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตาม เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร จํานวน 100,000 บาทต่อคน และค่ารักษาพยาบาล จํานวน 100,000 บาทต่อคน

ในส่วนของรถกระบะบรรทุก ทะเบียน ณษ 892 กรุงเทพมหานคร ได้ทําประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อินทรประกันภัย จํากัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 โดยไม่พบข้อมูลการทําประกันภัยภาคสมัครใจแต่อย่างใด

สําหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บทั้ง 16 ราย ที่ถูกนําส่งเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลน้ัน เจ้าหน้าที่สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สํานักงาน คปภ. เขตบางนา และสํานักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอํานวยความสะดวกและรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรง โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสํารองจ่ายค่ารักษาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ สํานักงาน คปภ. จะบูรณาการการทํางานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทําประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบ ภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทําประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกก็จะช่วยประสานงานให้ได้รับค่าสินไหมทดแทน เพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้

“สํานักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และสํานักงาน คปภ.พร้อมจะ ดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน และเพื่อความอุ่นใจ ควรให้ ความสําคัญกับการทําประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและ เยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้านประกันภัย ติดต่อสายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Previous post มิตรแท้ฯ รุดมอบค่าสินไหมฯ 11.135 ล้านบาท กรณี อบ. รถตู้ 11 ศพที่โคราชด้วยความห่วงใย
Next post <strong>WikiFX จัดแข่งเทรดบัญชี Demo ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 3 ล้านบาท</strong>
Social profiles