โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา

Read Time:2 Minute, 18 Second

สำหรับกิจกรรม ทริป Low Carbon กับโตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา ในครั้งนี้ คณะสื่อมวลชนได้เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรก ภายใต้ชื่อ “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” โดยรถยนต์คัมรี ไฮบริด ใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนช่วยในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยกว่ารถปกติทั่วไป จากนั้นจึงได้เข้ามาเยี่ยมชม “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” 

นับเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงานของโตโยต้าโดยมีเจ้าหน้าที่จากโตโยต้าเป็นผู้ให้ข้อมูลความรู้แก่สื่อมวลชน นอกจากนี้ยังมีคนดังรักษ์โลกร่วมกิจกรรมตลอดทริปคือ “คุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” ได้ร่วมฟัง ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรก ของโตโยต้า เดินชมห้องบอร์ดนิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราวการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน

จากนั้นเดินเยี่ยมชมตามจุดต่างๆ ภายในศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง 5 ด้านของโตโยต้า อันได้แก่ การอนุรักษ์น้ำ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก และการเดินทางอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้สื่อมวลชนและคุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ยังได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมเวิร์คช็อปอย่างสนุกสนาน เพื่อประดิษฐ์สิ่งของเหลือใช้นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทุกคนตระหนักและส่งเสริมความเข้าใจในองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้าอย่างครบถ้วน

ทั้งนี้ยังได้ลงมือปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามหลักการปลูกป่านิเวศของศาสตราจารย์อากิระ มิยาวากิ โดยใช้พันธุ์ไม้ท้องถิ่น อาทิเช่น ยางนา คูณ กันเกรา ตะเคียน พยูง ฯลฯ การทดลองคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีและนำขยะที่คัดแยกแล้วมารีไซเคิลโดยการประดิษฐ์โดยการประดิษฐ์เป็นของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก HA : MO ที่ใช้เชื่อมต่อโตโยต้าเมืองสีเขียว กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในเมืองอยุธยาให้ทุกคนสามารถขับไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตามโตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา เปิดให้บริการทุกวัน สำหรับโซนสวนเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. และโซนอาคารนิทรรศการเปิดบริการตั้งแต่ 10.00-17.00 น. โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกคน และถือเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Previous post HappyFresh จับมือ JustCo มอบโปรโมชั่น จัดหนักทิ้งท้ายปี ถึง 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น
Next post เปิดงาน “CMKL Tech Summit 2018”
Social profiles