พาเที่ยววัดอรุณฯ ในวันหยุด

Read Time:2 Minute, 30 Second

ครั้งสุดท้ายที่ทางเรามา วัดอรุณ ก็น่าจะตอนช่วงมัธยมต้นได้ล่ะมั้ง วันนี้เราจึงถือโอกาสในวันหยุดอยากพาไปชมวัดอรุณฯ ที่มีการบูรณะใหม่กัน ซึ่งมีความสวยสดงดงาม  เป็นอีกหนึ่งศาสนสถานสำคัญที่ทรงคุณค่า งดงามด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมายที่ควรค่าแก่การศึกษา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราคนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจกันนะคะ

วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมน้ำเจ้าพระยา ถือเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดมะกอก” แต่เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชประสงค์ย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี โดยกรีธาทัพมาทางชลมารค และมาถึงหน้าวัดมะกอกเอารุ่งสาง จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดแจ้ง” จวบจนสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เถลิงถวัลยราชสมบัติ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ พระองค์เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จึงทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ โดยพระราชทานนามวัดว่า “วัดอรุณราชวราราม” และกลายเป็นวัดประจำรัชกาลในพระองค์

บริเวณโดยรอบพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ประกอบด้วยพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ ภายในมีรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ กำแพงแก้วกั้น มีฐานทักษิณ 3 ชั้น มีรูปปั้นมารและกระบี่แบกฐานสลับกัน นอกจากนั้นมีซุ้ม 4 ซุ้ม มีพระนารายณ์อวตาร เหนือขึ้นไปเป็นยอดปรางค์ มีเทพพนมนรสิงห์เพื่อปราบยักษ์

ซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ จะมียักษ์วัดแจ้งที่มีชื่อเสียงยืนเฝ้าอยู่ ยักษ์กายสีขาว มีชื่อว่า “สหัสเดชะ” ยักษ์กายสีเขียว มีชื่อว่า “ทศกัณฐ์” เป็นยักษ์ศิลปะแบบจีน ปูนปั้นประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี มือถือตะบองใหญ่เป็นอาวุธ ตรงบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ แฝงไว้ด้วยคติความเชื่อในการทำหน้าที่เป็นเทพพิทักษ์ ปกปักรักษาสถานที่สำคัญทางศาสนา

สำหรับการเดินทางมาที่วัดอรุณ  สามารถขับรถมาจอดไว้บริเวณแถววัดอรุณ หรือบริเวณใกล้เคียงก็ได้ แต่ที่จอดรถหน้าวัดพื้นที่จำกัด ถ้าเน้นสะดวกและที่จอดรถมีเยอะ ก็สามารถนำรถมาจอดได้ที่ราชนาวีสโมสรตรงข้ามกับวัดพระแก้ว แล้วเดินไปท่าเตียน จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งท่าเตียนมาจะถึงวัดอรุณได้เลย ค่าเรือคนละ 4 บาท หรือนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา มาลงที่ท่าวัดอรุณก็ได้  นักท่องเที่ยวค่อนข้างจะเยอะมากโดยเฉพาะชาวต่างชาติค่ะ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. (คนไทยเข้าชมฟรี แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเสียค่าเข้าคนละ 50 บาท)

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน 

เครื่องแต่งกาย ARROW 

บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

Previous post ลานเซ็นทรัลเวิลด์ คับคั่งกับงานสงกรานต์ Bangkok Songkran Festival 2019’
Next post “Thailand Songkran Festival 2019” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ
Social profiles