สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกสาม นับตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น และกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งให้แก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นแนวหน้าในการรับมือวิกฤตโควิด-19 ขณะเดียวกันภาคธุรกิจต่าง ๆ ก็ช่วยกันเร่งระดมความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการมอบเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ หรือนำศักยภาพทางธุรกิจร่วมแบ่งปันแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกำลังใจให้ชาวไทยทุกภาคส่วนได้มีพลังกายที่แข็งแรง และพลังใจที่เข้มแข็งในการร่วมต่อสู้การระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน
แบรนด์หนึ่งที่มีการมอบเงินบริจาคและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ให้แก่สถาบันทางการแพทย์ หน่วยงานทางการแพทย์ โรงพยาบาล รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบในชุมชนต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา ต้องยกให้แบรนด์สุกี้ชื่อดัง MK โดยปีนี้ เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ร่วมกับ มูลนิธิป้าทองคำ ยังยืนหยัดเคียงข้างเป็นกำลังใจและสนับสนุนพลังกาย ให้แพทย์ พยาบาล และ บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเสียสละตนเอง ทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอดช่วงการแพร่ระบาด พร้อมส่งความอิ่มท้องให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ หรือจนกว่าสถานการณ์จะบรรเทา โดยสนับสนุนอาหารกล่องที่ปรุงสุก สดใหม่ทุกวัน คุณภาพและความปลอดภัยได้มาตรฐานจากร้าน เอ็มเคสุกี้และร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ เป็นจำนวนมื้ออาหารกว่า 80,000 มื้อ โดยจัดส่งให้ทั้งโรงพยาบาล สถานพยาบาล และ สถาบันทางการแพทย์ กว่า 18 แห่งทั่วประเทศ เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (สวนดอก), โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ และสถาบันบําราศนราดูร
นอกจากนี้ตั้งเเต่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด-19ในปี 2563 เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และความสามารถทางการแพทย์ เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 โดยมอบทุนสนับสนุนงานวิจัยให้แก่ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 6 ล้านบาท และบริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้แก่สภาชาดไทย เพื่อร่วมสนับสนุน “โครงการร่วมพัฒนาวัคซีนโควิด-19” และเป็นการสนับสนุนการทำงานของสถาบันทางการแพทย์ต่าง ๆ ในการต่อสู้กับโรคอุบัติใหม่นี้อีกด้วย
ตลอดจนส่งมอบความห่วงใย และความปรารถนาดีให้แก่เด็กกำพร้า ผู้พิการโดยมอบนมเมมเบอร์รี่ (Memberry) จำนวน 25,000 ลัง รวม 900,000 กล่อง ให้แก่สถานสงเคราะห์เพื่อเด็กเยาวชน คนพิการ และผู้ด้วยโอกาส จำนวน 22 แห่ง ในกรุงเทพฯ ปริมณทล และ ชลบุรี ซึ่งมีเด็กในความอนุเคราะห์ทั้งหมดกว่า 4,000 คน เพื่อเสริมพลังกาย และส่งมอบกำลังใจให้เด็ก ๆ มีสุขภาพที่ดี สุขภาวะที่ดี รวมทั้งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เยาวชนและผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19
ด้านผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคแบรนด์ชั้นนำสัญชาติไทยคุณภาพระดับมาตรฐานสากลแบรนด์ เอเวอร์เซ้นส์ ทรอส ดีนี่ วีไวต์ บีไนซ์ ไฟน์ไลน์ สมาร์ท และโทมิ ภายใต้ กลุ่มบริษัท นีโอ ประกอบด้วย บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด และ บริษัท นีโอ แฟคทอรี่ จำกัด นอกจากพันธกิจหลักในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานในการดำรงชีวิต และมอบความสะอาด ปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคยุคโควิด-19 อย่างทันท่วงที โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ (สูตรไม่ใช้น้ำ) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์ และผลิตภัณฑ์ซักผ้า ซึ่งล้วนมีส่วนผสมในการขจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย สิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สร้างความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมอบเงินบริจาครวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลสนามผู้สูงอายุบางขุนเทียน โรงพยาบาลหนองเสือ และโรงพยาบาลธัญบุรี เสริมความแข็งแกร่งทางการแพทย์ให้สามารถฝ่าวิกฤตการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ ให้คนไทยได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด
ในแต่ละวันจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการโคม่าในระดับที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายโรงพยาบาลเกิดการขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในนาทีนี้ ด้วยศักยภาพของการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก แบรนด์ ไฮเออร์ (Haier) โดยกลุ่มบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และแบรนด์แคนดี้ (Candy) ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติอิตาลี ได้มอบความช่วยเหลือเพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยโควิดที่รอคอยอุปกรณ์ช่วยชีวิตดังกล่าว โดยมอบเครื่องช่วยหายใจเพื่อนำไปใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยใน 4 โรงพยาบาล ๆ ละ 2 เครื่อง ได้แก่ โรงพยาบาลสงขลา จ.สงขลา, มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์, โรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และ โรงพยาบาลพะเยา จ.พะเยา รวมทั้งหมด 8 เครื่อง มูลค่ารวม 13.2 ล้านบาท เพราะคนไทยไม่ทิ้งกัน ความช่วยเหลือที่มีให้กัน ด้วยความหวังและมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นี้ดีขึ้นในเร็ววัน
