เยอรมนี ส่งมอบตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนการดำเนินงานรับมือโควิด-19 ในไทย

Read Time:4 Minute, 21 Second

ในนามสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน(GIZ) ส่งมอบตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำเพื่อจัดเก็บวัคซีนโควิด-19 พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการแก่กระทรวงสาธารณสุข ณ กรมควบคุมโรคเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนการดำเนินงานกระจายวัคซีนในกลุ่มที่มีความเปราะบางรวมถึงประชากรที่มีความเสี่ยงตามพื้นที่แนวชายแดนให้แก่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศไทย 

อุปกรณ์การแพทย์ซึ่งประกอบไปด้วยตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำ 4 ตู้รวมถึงเข็มและกระบอกฉีดยาชนิด Low Dead Space จำนวน 51,000 ชุด ได้ถูกส่งมอบให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย ระหว่างงานพิธีส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์ภายใต้ “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งสำหรับการตอบโต้ต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน”

การส่งมอบตู้แช่แข็งฯ ดังกล่าวจะช่วยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขสามารถจัดเก็บวัคซีนชนิดสารพันธุกรรมหรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวัคซีนชนิดดังกล่าวต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำมากเป็นพิเศษถึง -70 องศาเซลเซียสในขณะที่อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ซึ่งได้แก่ เข็มและกระบอกฉีดยาชนิด Low Dead Space จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขสามารถเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อตอบสนองต่อการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นายฮานส์ อูลริช ซูดเบค อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย การระบาดใหญ่ในครั้งนี้จะสามารถเอาชนะได้ก็ต่อเมื่อการแพร่กระจายของโรคถูกควบคุมได้ทั่วโลก ผมมีความยินดีที่เราสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินงานกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยโดยการบริจาคตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำรวมถึงเข็มและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีความเปราะบางรวมถึงประชากรที่มีความเสี่ยงตามพื้นที่แนวชายแดนของประเทศเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับผลประโยชน์ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านสาธารณสุขในภูมิภาค ระหว่างอาเซียน-เยอรมัน การบริจาคครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับประเทศไทย ในขณะที่เรากำลังเฉลิมฉลอง 160 ปี ความสัมพันธ์เยอรมัน-ไทย ในปี พ.ศ. 2565 นี้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา เยอรมนีได้สนับสนุนประเทศไทยเป็นประเทศแรกในฐานะสมาชิกสหภาพยุโรป ด้วยการบริจาควัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19”

“เราเชื่อว่าการเข้าถึงวัคซีน ยา และการตรวจหาเชื้ออย่างเท่าเทียม ยุติธรรม และอยู่ในราคาที่จับต้องได้ รวมถึงให้การป้องกันกับผู้มีความเสี่ยงสูงเป็นการช่วยชีวิตวิธีหนึ่งที่สำคัญ ดังนั้นเรามุ่งเน้นที่จะรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนนับล้าน ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศและแบบพหุภาคี เช่น โครงการ COVAX โดยการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในฐานะเป็นประธานของ G7” นายซูเบคกล่าวเพิ่มเติม

นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวคำต้อนรับและเปิดงานในพิธีส่งมอบว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้รับอุปกรณ์สนับสนุนจากโครงการฯ ซึ่งได้แก่ ตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำรวมถึงเข็มและกระบอกฉีดยาชนิด Low Dead Space เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมความพยายามในการดำเนินงานกระจายวัคซีนภายในประเทศ”ปัจจุบันประเทศไทยมีแผนที่จะซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 120 ล้านโดส เพื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นและจัดการกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในปี พ.ศ. 2565 นี้

งานพิธีส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์อยู่ภายใต้การดำเนินงานของโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งสำหรับการตอบโต้ต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)และภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งให้ความสำคัญในการช่วยเหลือแก่กลุ่มที่มีความเปราะบางในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง โดยการสนับสนุนครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุขในภูมิภาค ระหว่างอาเซียน-เยอรมันและประเทศไทยในฐานะหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียน

โครงการฯ ให้การสนับสนุนกิจกรรม ดังนี้ 

(1) การจัดหาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประเทศในกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาคอาเซียน 

(2) การสนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคอาเซียนในการเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข อาทิ การพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อติดตามผู้สัมผัสข้ามพรมแดนและการสอบสวนการระบาดของโรค การพัฒนาแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยของอาเซียนเพื่อป้องกันโรคระบาดในที่สาธารณะ และด้วยความร่วมมือกับสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค ได้จัดทำการประเมินความต้องการเพื่อพัฒนาศักยภาพในการรับมือภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของโควิด-19 ในอาเซียน 

(3) การพัฒนาโครงการในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขในระยะยาวของประชาคมอาเซียน

โครงการฯ อยู่ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) ในการตอบสนอง และฟื้นตัวจากผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 

องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เป็นองค์กรของรัฐบาลเยอรมันที่ดำเนินงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน GIZ ปฏิบัติงานในนามของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศเยอรมนีและต่างประเทศ รวมทั้งรัฐบาลของประเทศต่างๆ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก และองค์กรที่ให้ทุนอื่นๆ GIZ ดำเนินงานอยู่ในประเทศต่างๆ มากกว่า 120 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานประมาณ 23,000 คน ซึ่งร้อยละ 70 เป็นคนในประเทศ

Previous post ช่อง JKN18 จัดโปรโมชั่นต้อนรับวันวาเลนไทน์ “Instinct in love” กับเซตคู่สุดคุ้ม หอมสุดใจ
Next post เคทีซี จับมือ ซาบีน่าจัดแชริตี้แคมเปญ “ยิ่งช้อปยิ่งให้กับบัตรเครดิตเคทีซี”
Social profiles