ในโลกยุคนี้ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเครียดครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือแม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษาก็ตาม ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและเกิดมาแล้วกับหลายคน แต่ก็เป็นอาการที่อันตรายและต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิตครับ วันนี้ ผมจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับกิจกรรมเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้เพื่อลดความเครียดครับ
1. หนีห่างหน้าจอและการนั่งท่าเดิม ๆ
ในชีวิตยุคปัจจุบัน เหมือนกับว่ามนุษย์เราต้องอยู่ติดหน้าจอหลากหลายขนาดตลอดเวลาครับ ใกล้ตัวหน่อยก็มีโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป นอกบ้านก็มีป้ายโฆษณาแอลอีดีอันใหญ่เบิ้ม จอเนวิเกเตอร์บนรถ ซึ่งแน่นอนครับว่าการจ้องหน้าจอนาน ๆ ก็จะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้เป็นแหล่งที่มาของแสงสีฟ้าแล้ว การจ้องหน้าจอยังทำให้เราอาจจะลืมกะพริบตา มีท่านั่งที่ไม่เหมาะสม หรือต้องเกร็งคอเป็นเวลานานจนทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ตาแห้ง ซึ่งก็จะไปกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ อีก เพราะฉะนั้น การลุกเดินหนีหน้าจอไปเปลี่ยนอิริยาบถเป็นเวลาสั้น ๆ ทุก ๆ ชั่วโมงก็จะทำให้เราได้มีโอกาสพักผ่อนร่างกายและลดโอกาสเครียดในระยะสั้นลงได้ครับ
2. หากิจกรรมที่ทำให้มีความสุข
ผมเลือกใช้คำว่ากิจกรรมที่ทำให้มีความสุข แทนที่จะเป็นคำว่ากิจกรรมเงียบสงบ หรือคำว่ากิจกรรมผาดโผนโลดโผน เพราะผมเชื่อว่ากิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเป็นเครื่องมือแก้ความเครียดที่มีประสิทธิภาพที่สุดครับ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าคุณชอบไปร้องเพลงที่คาราโอเกะ ถ้ามีเวลาว่างก็ไปคาราโอเกะครับ ส่วนใครชอบเสี่ยงโชค ก็เข้าเว็บไซต์ Kapook888 ไปวัดดวงกับอัตราเดิมพันกีฬาชั้นนำได้เลย แต่จุดสำคัญของการทำกิจกรรมนี้ก็คือ ควรจะทำกิจกรรมในช่วงเวลาที่กิจกรรมจะไม่ส่งผลต่อการทำงานหรือเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นหน้าที่สำคัญของเราครับ เพื่อที่เราจะได้รู้สึกว่าสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องนึกถึงสิ่งสำคัญตลอดเวลา
3. ออกกำลังกายหรือออกแรงเยอะ ๆ
ถ้าหากว่าคุณไม่ได้หมดแรงจากงาน จากการเรียนในแต่ละวัน แล้วมีโอกาสหรืออุปกรณ์ออกกำลังกายที่เหมาะสม การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้สมองของเราหลั่งสารเอนโดรฟินออกมา ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเพลิดเพลินและมีความสุขครับ นอกจากนี้ เอนโดรฟินจะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองและอาจจะทำให้เราเลือกทำพฤติกรรมที่ดีกับตัวเองไปเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน แต่อย่าลืมวอร์มร่างกายและฟื้นฟูให้ดี ๆ นะครับ ไม่งั้นจะเสี่ยงปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและทำให้เรารู้สึกแย่ลงไปอีกซะอย่างนั้น
4. พบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
วิธีที่สามารถช่วยเหลือผู้ที่กำลังมีอาการเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลิตผลที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ ก็คือ การเข้ารับการบำบัดสุขภาพจิตครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สังคมหลายประเทศยังคงมองว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นปัญหาที่สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรับการบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการเยียวยาเนี่ย นอกจากจะส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองแล้ว ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างและการทำงานอีกด้วย ดังนั้น ใครที่สามารถเข้าถึงบริการจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ผมก็ขอแนะนำให้ท่านเข้ารับบริการแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่โรคนี้จะเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หาย
นอกจากเคล็ดลับเหล่านี้ การนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การสังสรรค์กับผู้คน และการสร้างพฤติกรรมในการดูแลตัวเองที่ดีขึ้น ก็จะช่วยทำให้เราสามารถลดความเครียดได้ดีขึ้นเช่นกันครับ ถึงแม้ว่าโลกนี้จะโหดร้ายกับเรา แต่อย่างน้อย เราก็รู้วิธีรับมือกับมันเพื่อให้รู้สึกแย่ได้น้อยที่สุดครับ
