มิตรผล ชูความสำเร็จแรกบนเส้นทางสู่ Net Zero ดันอุทยานมิตรผลด่านช้างก้าวสู่ Carbon Neutrality Complex แห่งแรกของไทย

Read Time:2 Minute, 24 Second

กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารอันดับ 2 ของโลก ประกาศความสำเร็จก้าวแรกบนเส้นทางสู่การเป็นองค์กร Net Zero ผลักดันอุทยานมิตรผลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี สู่คอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Complex) ได้ตามเป้าหมาย ผ่านการรับรองโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 270,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) พร้อมเดินหน้าพัฒนาสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ทั้งองค์กร ภายในปี ค.ศ. 2030 และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050

อุทยานมิตรผลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นคอมเพล็กซ์ที่ประกอบไปด้วย 7 โรงงานต่อเนื่อง ที่เริ่มจากโรงงานน้ำตาล และหมุนเวียนใช้ทรัพยากรที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำตาล ต่อยอดสู่โรงไฟฟ้าชีวมวล และอุตสาหกรรมไบโอเบส อีกทั้งในปัจจุบันได้มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เป็นจำนวนกว่า 270,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 300,000 ไร่ ผ่านแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ได้แก่

  1. การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Energy) จากการหมุนเวียนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ชานอ้อย ใบอ้อย สู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวล รวมถึงใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ภายในกระบวนการผลิตของทุกโรงงานฯ โดยได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูง ลดการสูญเสีย จึงช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 185,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  2. ระบบบริหารจัดการน้ำเสีย (Advanced Technology for Environmental Protection)ด้วยการใช้เทคโนโลยีการบำบัดแบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง มาแทนการใช้ระบบแบบเดิมที่ใช้พื้นที่มากและเกิดก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้น้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพที่ดี สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้  และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 10,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  3. การชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Offset) จำนวน 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากคาร์บอนเครดิตที่กลุ่มมิตรผลได้รับจากการเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) 

นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผล มีแนวทางการดำเนินงานที่ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้หลัก BCG จากผลผลิตทางการเกษตร การส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดการเผาอ้อย และการขยายพื้นที่ปลูกป่าเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย โดยกลุ่มมิตรผลมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนโมเดลความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ขยายสู่โรงงานในเครือต่อไป เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของกลุ่มมิตรผลในการนำพาองค์กรก้าวสู่ Net Zero และสอดคล้องกับนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของประเทศไทย

Previous post BELOTERO เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ BELOTERO Lips ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปาก 
Next post สิงห์ เอสเตท เปิดตัว S’RIN โครงการบ้านเดี่ยวใหม่ระดับ Premium Luxury 
Social profiles